หุ่นยนต์จากฝั่งตะวันตกอย่างของบริษัท
Boston
Dynamics หรือจากฝั่งจีนอย่าง Unitree Robotics หุ่นยนต์ยุคใหม่มีการเคลื่อนไหวที่คล่องแคล่วและทรงตัวอย่างยืดหยุ่นไม่ผิดไปจากมนุษย์นัก
เมื่อผนวกกับศักยภาพที่เปี่ยมล้นของปัญญาประดิษฐ์
ก็พาให้จินตนาการล่องลอยไปถึงสังคมที่มนุษย์กับหุ่นยนต์อาศัยอยู่ร่วมกันอย่างเรื่องราวในงานเขียนของไอแซก
อาซิมอฟ
ทุกวันนี้
โรงงานทันสมัยทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยก็เริ่มเต็มไปด้วยหุ่นยนต์แล้ว
หุ่นยนต์แขนกลในโรงงานมักใช้ในการประกอบชิ้นส่วนและดูแลกระบวนการผลิตต่างๆ
ส่วนในบ้านเรือน เราเริ่มเห็นการใช้หุ่นยนต์ในรูปลักษณ์ที่น่ารัก
หรือเป็นหุ่นยนต์สัตว์เลี้ยงเพื่อนำมาเป็นเพื่อน
ผู้ดูแลผู้ป่วยหรือผู้สูงอายุกันแล้ว
(ภาพจาก:
ภาพยนตร์ I, Robot)
ในอนาคตอันใกล้
เราจะได้เห็นหุ่นยนต์ที่ผนวกกับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์
ซึ่งสามารถวิวัฒนาการตัวเองได้ หุ่นยนต์เหล่านี้จะเรียนรู้และปรับใช้อัลกอริทึมอย่างต่อเนื่องตามข้อมูลใหม่ตลอดเวลา
ทำให้หุ่นยนต์มีประสิทธิภาพมากขึ้น เมื่อเวลาผ่านไป
การพัฒนาตนเองนี้จะนำไปสู่หุ่นยนต์ที่เป็นอิสระมากขึ้น
และสามารถจัดการกับสภาพแวดล้อมและงานที่คาดเดาไม่ได้
นอกจากนี้
เรายังจะพบกับหุ่นยนต์ที่มีความฉลาดทางอารมณ์ขั้นสูง ซึ่งจะช่วยงานในสาขาต่างๆ
เช่น การดูแลสุขภาพ การศึกษา และการบริการลูกค้า
แน่นอนว่า
เราจะพบกับความหวาดกลัวของการมาถึงของสังคมหุ่นยนต์
ทั้งผลกระทบจากการทดแทนตำแหน่งงานจนทำให้คนจำนวนมากตกงาน
การนำไปใช้ด้านการทหารและการรบในอนาคต ไปจนถึงการเกิดขึ้นของไซบอร์ก (Cyborg)
ซึ่งทำให้มนุษย์ไซบอร์กที่มีกลไกของหุ่นยนต์ในตัวมนุษย์กลายเป็นอภิมนุษย์ที่มีศักยภาพสูงกว่ามนุษย์ทั่วไป
แนวคิดของบทบาทหุ่นยนต์ในสังคมมนุษย์ได้ถูกกล่าวไว้อย่างรุ่มรวยในนวนิยายวิทยาศาสตร์
โดยเฉพาะผลงานของบรมครูอย่าง ไอแซก อาซิมอฟ
ผู้ประพันธ์ผลงานชั้นนำอย่างนวนิยายชุดเรื่อง “Foundation” อันโด่งดัง และเรื่องสั้นชุด “I, robot” หลายเรื่องซึ่งสร้างจักรวาลของหุ่นยนต์ขึ้นมาตั้งแต่ปี
2493
อาซิมอฟ
เคยเสนอ “กฎสามข้อของหุ่นยนต์” ไว้
ซึ่งเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการมีแนวปฏิบัติทางจริยธรรมในหุ่นยนต์
โดยเขียนกฎหุ่นยนต์ไว้ในเรื่องสั้นว่า
กฎข้อที่
1 “หุ่นยนต์ไม่สามารถทำร้ายมนุษย์หรือปล่อยให้มนุษย์ได้รับอันตรายโดยไม่ทำอะไรเลย”
กฎข้อที่
2 “หุ่นยนต์จะต้องเชื่อฟังคำสั่งของมนุษย์
ยกเว้นในกรณีที่คำสั่งดังกล่าวจะขัดแย้งกับกฎข้อที่หนึ่ง
กฎข้อที่
3 “หุ่นยนต์จะต้องปกป้องการดำรงอยู่ของตัวเอง
ตราบใดที่การป้องกันดังกล่าวไม่ขัดแย้งกับกฎข้อที่หนึ่งหรือสอง”
กฎจริยธรรมดังกล่าวได้รับการสำรวจอย่างกว้างขวาง
ในเรื่องราวของหุ่นยนต์ในเรื่องสั้นของอาซิมอฟและของนักเขียนนิยายวิทยาศาสตร์ต่อมาอีกหลายยุคสมัย
สำหรับผู้ชมภาพยนตร์สามารถสัมผัสกับจินตนาการสังคมหุ่นยนต์และกฎจริยธรรมนี้จากภาพยนตร์เรื่อง
I,
Robot ที่นำแสดงโดย วิล สมิธ ซึ่งแสดงให้เห็นว่ากฎหุ่นยนต์ 3
ข้อยังไม่เพียงพอและทำให้เกิดเหตุการณ์ที่คุกคามการดำรงอยู่ของเผ่าพันธุ์มนุษย์ได้
ภายหลัง
อาซิมอฟได้เพิ่มกฎข้อที่ศูนย์ขึ้นมาอีกข้อ โดยกฎข้อที่ 0 ระบุว่า
“หุ่นยนต์ไม่สามารถทำร้ายมนุษยชาติ
หรือยอมให้มนุษยชาติได้รับอันตรายโดยไม่ทำอะไรเลย”
กฎของหุ่นยนต์
4 ข้อของอาซิมอฟ
ช่วยกระตุกความคิดและวางพื้นฐานทางจริยธรรมให้กับการนำหุ่นยนต์มาใช้ในสังคมในอนาคต
โดยเฉพาะเมื่อหุ่นยนต์มีความเป็นอิสระและชาญฉลาดมากขึ้น
ประเด็นด้านจริยธรรมจะมีความสำคัญมากขึ้นตามไปด้วย
อย่างไรก็ตาม
กฎดังกล่าวเป็นกฎในนิยายวิทยาศาสตร์ที่ยังไม่สมบูรณ์
และยังต้องการการวิจัยและการตั้งวงอภิปรายเพื่อจัดทำกฎระเบียบที่เข้มข้นเกี่ยวกับการใช้หุ่นยนต์อย่างมีจริยธรรม
ไม่ว่าจะหุ่นยนต์ที่ใช้ในครัวเรือนและสำนักงาน
และโดยเฉพาะหุ่นยนต์ในด้านการทหารในอนาคต
องค์ประกอบสำคัญในเรื่องสั้นชุด
“I,
Robot” อีกเรื่องคือการเกิดขึ้นของจิตสำนึกของหุ่นยนต์
เมื่อปัญญาประดิษฐ์มีความซับซ้อนมากขึ้น
คำถามเกี่ยวกับจิตสำนึกและความรู้สึกในหุ่นยนต์ก็จะเกิดขึ้น
ซึ่งจะนำไปสู่การถกเถียงเกี่ยวกับสิทธิและสถานะทางกฎหมายของหุ่นยนต์
รวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับหุ่นยนต์ และปฏิสัมพันธ์ทางสังคมรูปแบบใหม่
โดยหุ่นยนต์จะอยู่ในฐานะเพื่อน ผู้ดูแล เพื่อนร่วมงาน หรือแม้แต่คนรักของมนุษย์
ในญี่ปุ่น
เราได้เห็นสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นแล้ว
เนื่องจากญี่ปุ่นเป็นสังคมที่ยอมรับหุ่นยนต์ได้มากกว่าฝั่งตะวันตกมาก
เพราะญี่ปุ่นมีแนวคิดถึงการมีอยู่ของจิตวิญญาณหรือเรียกว่า “คะมิ”
ในสิ่งที่ไม่มีชีวิตทั้งก้อนหิน แม่น้ำ ภูเขา สิ่งของ และรวมไปถึงหุ่นยนต์
ในขณะที่ในฝั่งตะวันตก
อาจมองหุ่นยนต์ด้วยความหวาดระแวงและความกลัว
ซึ่งอาจเป็นผลจากภาพที่ได้จากนวนิยายคลาสสิกอย่างเรื่องแฟรงเกนสไตน์ ของแมรี
เชลลีย์ หรือภาพของหุ่นยนต์โมเดลที-800 ในภาพยนตร์เรื่อง Terminator
ของเจมส์ คาเมรอน
ซึ่งคาเมรอนเคยบอกว่าเห็นภาพหุ่นยนต์ที่น่ากลัวจากในความฝันของตนเอง
จนนำมาพัฒนาเป็นภาพยนตร์ชื่อดังในเวลาต่อมา
มุมมองทั้งฝั่งตะวันตกและฝั่งญี่ปุ่นช่วยทำให้เรามองหุ่นยนต์อย่างเท่าทันมากยิ่งขึ้นทั้งในด้านโอกาสและความเสี่ยง
อนาคตของหุ่นยนต์จึงเป็นหัวข้อที่น่าสนใจ และไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป
เราต้องเริ่มตั้งคำถามกันล่วงหน้าถึงความก้าวหน้าของหุ่นยนต์กับเรื่องเศรษฐกิจ
งานของมนุษย์ สังคมอนาคตและจริยธรรมในสังคมอนาคตนี้
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ
วันที่ 29 มกราคม 2567