หุ่นยนต์อุตสาหกรรมนั้นมีการลงทุนและการใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องภายใต้ความท้าทายยุคปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นการขาดแคลนแรงงาน การขาดแคลนทักษะ การเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วของตลาด หรือความไม่แน่นอนของซัพพลายเชนก็ตาม และนี่คือ 10 กิจกรรมยอดฮิตในการใช้งานหุ่นยนต์อุตสาหกรรมจาก Analyticsinsight.net
1.
การประกอบและแยกชิ้นส่วน
การประกอบชิ้นส่วนจากเล็กไปใหญ่นั้นเป็นกิจกรรมที่เห็นได้ทั่วไปในการผลิต
การประกอบดั้งเดิมที่ใช้มนุษย์นั้นต้องผสมผสานทั้งความแม่นยำ ความคล่องตัว การมองเห็นที่รวดเร็วและละเอียด
ไปจนถึงความฉลาดในการดำเนินการ
ซึ่งหุ่นยนต์จะมาช่วยทุ่นแรงได้ทั้งการประกอบหรือยึดติดชิ้นส่วนเข้าด้วยกัน เช่น
การติดกาวหรือการขันสกรูต่าง ๆ
2.
การขึ้นรูปด้วยแม่พิมพ์
ในกระบวนการหล่อโลหะอย่าง
Casting
ที่ใช้แม่พิมพ์หรือร่องที่ขุดเป็นรูปทรงซึ่งหุ่นยนต์เองก็สามารถทำหน้าที่ฉีดโลหะเหลว
Deburring, Grinding ไปจนถึงงานขัดผิวได้ด้วยเช่นกัน
3.
หุ่นยนต์ทำความสะอาด
แน่นอนว่าพื้นที่การผลิตต้องมีความสะอาดอยู่เสมอเพื่อให้ชิ้นงานที่ผลิตเสร็จแล้วคงไว้ซึ่งคณภาพในระดับสูงสุด
เช่นเดียวกับสุขอนามัยของผู้คนที่ทำงานในพื้นที่
หุ่นยนต์ทำความสะอาดสามารถฆ่าเชื้อ หรือดูดฝุ่น หรือทำความสะอาดเก็บเศษโลหะเล็ก ๆ
ที่กระจายได้อัตโนมัติ
ซึ่งช่วยลดเวลาในการทำความสะอาดซึ่งปรกติใช้เวลาไม่น้อยในขั้นตอนเหล่านี้
4.
หุ่นยนต์สำหรับหยิบสิ่งของ
การหยิบจับสิ่งของโดยหุ่นยนต์นั้นไม่จำเป็นจะต้องเกิดขึ้นในงานคลังสินค้าหรืองานโลจิสติกส์เท่านั้น
แต่การใช้งานในสายการผลิตเพื่อทำการหยิบจับชิ้นส่วนต่าง ๆ
ด้วยความรวดเร็วก็ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมสำคัญที่เกิดขึ้นอีกด้วย และการใช้งาน AMR
หรือ Autonomous Mobile Robot เองก็สามารถใช้งานได้ทั้งการเคลื่อนย้ายและการบูรณาการเพิ่มเติมเพื่อให้ใช้งานได้หลากหลายขึ้นอีกด้วย
5.
โลจิสติกส์และคลังสินค้า
ในงานคลังสินค้าหรือโลจิสติกส์เองนอกจากการหยิบจับแล้ว
ยังมีการจัดหมวดหมู่ การจัดเรียง การติดลาเบล ไปจนถึงการขนย้ายต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นคลังสินค้าหรือศูนย์กระจายสินค้า
ซึ่งในปัจจุบันมีการใช้งานหุ่นยนต์เพื่อนำส่งสินค้าสำหรับพื้นที่เมืองเกิดขึ้นแล้วในต่างประเทศ
6.
การตรวจสอบและควบคุมคุณภาพ
การตรวจสอบและควบคุมคุณภาพบางประการนั้นหมายถึงความเป็นความตายที่เกิดขึ้น
หากมีชิ้นส่วนที่ผิดพลาดหรือติดตั้งผิืดตำแหน่งอาจส่งผลต่อชีวิตได้โดยตรง
ซึ่งมนุษย์นั้นมีความแม่นยำในการทำงานเฉลี่ยอยู่ที่ 80% ในขณะที่หุ่นยนต์อุตสาหกรรมสามารถทำได้ 99% เช่น
การใช้หุ่นยนต์ติดกล้องช่วยตรวจสอบคุณภาพได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นรอยแยก
มิติขนาดของชิ้นงาน และคุณภาพการเคลือบ
7.
การกัดขึ้นรูป
กิจกรรมการผลิตที่ต้องทำซ้ำ
ๆ หรือจดจ่อสูงนั้นเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานหุ่นยนต์ ไม่ว่าจะเป็นการใช้งาน Machine
Tools ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น Milling หรือ Laser
Cutting ซึ่งนอกจากจะมีความแม่นยำสูงแล้ว
สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง รวดเร็ว
และทำงานได้เป็นระยะเวลายาวนานโดยมีความคาดเคลื่อนเกิดขึ้นต่ำหากเปรียบเทียบกับความล้าซึ่งมักจะเกิดขึ้นกับแรงงาน
8.
การพ่นสีและการเคลือบ
การพ่นสีและการเคลือบเป็นกระบวนการในการตกแต่งและปกป้องชิ้นงานซึ่งเกิดขึ้นทั่วไปในการผลิต
การเคลือบหรือพ่นสีที่ดีจะต้องมีความหนาที่เหมาะสมกับชิ้นงานและการใช้งาน
ทั้งยังต้องมีความสม่ำเสมอทั่วกันตลอดชิ้นงาน
โดยทั่วไปแล้วในการเคลือบจะมีทั้งการจุ่มชิ้นงานและการพ่นเคลือบบาง ๆ ซ้ำไปซ้ำมา
การใช้หุ่นยนต์ในงานเหล่านี้ทำให้แรงงานเกิดความปลอดภัยในการอยู่ใกล้กับสารเคมีและทำให้ชิ้นงานที่ได้มีคุณภาพสูงกว่าอีกด้วย
9.
บรรจุภัณฑ์และงานพาเลท
งานบรรจุภัณฑ์และการจัดวางพาเลทเป็นงานที่พบได้ทั่วไปในภาคอุตสาหกรรมไม่ว่าจะการผลิต
คลังสินค้า และศูนย์กระจายสินค้า
เมื่อเทรนด์มุ่งหน้าไปสู่การทำงานที่ใช้พื้นที่น้อยลงเล็กลงการขยับทำงานซ้ำ ๆ
ยิ่งมากขึ้นและว่องไวขึ้น เช่น
หุ่นยนต์ที่ผลิตกล่องจะต้องทำกล่องได้หลายขนาดตามความต้องการและจัดเรียงอยู่บนพาเลทได้อย่างมีประสิทธิภาพเป็นต้น
10.
งานเชื่อมวัสดุ
หุ่นยนต์สำหรับงานเชื่อมวัสดุนั้นมีการใช้งานอย่างกว้างขวางในกลุ่มผู้บริโภคและภาคอิเล็กทรอนิกส์พาณิชย์
ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมยานยนต์ อากาศยาน ไปจนถึงการผลิตเครื่องมือแพทย์
เพราะหุ่นยนต์นั้นสามารถทำงานได้อย่างแม่นยำและลดการใช้ทรัพยากรให้เกิดขึ้นเท่าที่จำเป็นได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง
ที่มา : mmthailand
วันที่ 28 มีนาคม 2566