AI
Adoption การนำเอาเทคโนโลยี AI เข้าไปใช้งานจริงกำลังขยายตัวเข้าไปในทุกอุตสาหกรรม
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มธุรกิจค้าปลีก
ข้อมูลจาก
Fortune
Business Insights ระบุว่า มูลค่าตลาดการใช้ AI ในธุรกิจค้าปลีกทั่วโลกกำลังเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วด้วยอัตราการเติบโตเฉลี่ย
35% ต่อปีและจะเพิ่มขึ้นจากกว่าสี่พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ไปสู่สามหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐภายในอีกห้าปี
ข้อมูลนี้สอดคล้องกับ
ผลการสำรวจ Global AI Adoption Index ของไอบีเอ็ม
ที่ระบุว่า 35% ขององค์กรธุรกิจ เริ่มนำ AI มาใช้งานจริงเทียบกับ
13% ในปีที่ผ่านมา
ส่วนเทรนด์การลงทุนในเทคโนโลยี
AI
ที่น่าสนใจ เป้าหมายใหญ่การลงทุนอันดับแรกขององค์กร
คือการพัฒนาระบบอัตโนมัติที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารต้นทุน(
54%) ส่วนเรื่องอื่นๆที่สำคัญคือการใช้ AI เพื่อยกระดับคุณภาพของงานด้าน
IT ทั้งหมด (53%) และ
การนำ AI มาใช้สร้างประสบการณ์ที่ดีขึ้นให้กับลูกค้า
(48%)
ผลสำรวจการนำเอาเทคโนโลยี
AI
มาใช้งานกับธุรกิจค้าปลีก พบว่า การใช้ AI อาจช่วยลดต้นทุนให้กับภาคธุรกิจได้ถึง
สามแสนล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี การปรับปรุงระบบซัพพลายเชนด้วย AI จะเข้าไปช่วยบริหารจัดการส่วนงานที่เป็นต้นทุนหลักสำหรับธุรกิจค้าปลีก
เช่น
การบริหารจัดการสินค้าคงคลัง
การบริหารจัดการสินค้าหน้าร้านที่ต้องใช้แรงงานคนจำนวนมาก
การจัดการเรื่องราคาสินค้าและต้นทุน
และที่สำคัญที่สุดการจัดการระบบ Demand Forecast ที่แม่นยำด้วยการใช้ AI จะช่วยลดต้นทุนให้กับธุรกิจค้าปลีกเพราะไม่ต้องเอาเงินไปลงทุนกับการสต๊อคสินค้าที่ไม่จำเป็น
ในส่วนของการสร้างประสบการณ์ให้กับลูกค้า
การส่งมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งแบบไร้รอยต่อ ทั้งบนช่องทางออนไลน์และออฟไลน์
จำเป็นต้องมี AI โซลูชั่นทำงานอยู่เบื้องหลังไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ
ระบบผู้ช่วยเสมือน ระบบสมาร์ทเพย์เมนต์
และการทำ Personalized Marketing
ธุรกิจค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง Walmart เป็นผู้ค้าปลีกรายแรกๆที่ลงทุนเอา
AI เข้ามาใช้ในระบบบริหารจัดการ จนปัจจุบันแทบจะเรียกได้ว่า
ทุกระบบการจัดการทั้งหน้าบ้านและหลังบ้านมีการใช้ AI โซลูชั่น
ล่าสุดร่วมมือกับสตาร์ทอัพ
Brain
Corp ใช้หุ่นยนต์ทำความสะอาดพื้นที่มีเสาติดตั้งสามารถเก็บข้อมูลการเปลี่ยนแปลงสินค้าบนเชลฟ์
มีการเก็บภาพถ่ายกว่า 20
ล้านรูปต่อวันทำให้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารสินค้าบนเชลฟ์ได้ถึง 15%
นั่นหมายถึงยอดขายที่เพิ่มขึ้นและต้นทุนที่ลดลง
โอกาสของ
AI
ในธุรกิจค้าปลีกที่มีมูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงที่ผ่านมา
ยังคงเป็นสนามการแข่งขันของบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่เช่น NVIDIA, Microsoft,
Google, IBM, SAP รวมถึงการจับมือกันระหว่างยักษ์กับยักษ์
เช่น Google และ Accenture ร่วมพัฒนา ai. RETAIL นวัตกรรม AI เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าธุรกิจค้าปลีก
แต่ในการแข่งขันที่ดุเดือดก็ยังมีสตาร์ทอัพหลายรายที่มี
Insights
เชิงลึกและมี AI โซลูชั่นที่ประสบความสำเร็จได้
อย่างเช่น Trax ยูนิคอร์นด้านคอมพิวเตอร์วิชั่นที่ใช้หุ่นยนต์เก็บข้อมูลบนพื้นที่หน้าร้าน
Dataiku แพลตฟอร์ม Everyday AI ที่ให้บริการเรื่องดาต้าโซลูชั่นแบบครบวงจร
เมื่อ AI คือตัวแปรสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจเข้าถึงและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้ตรงจุด
เกมนี้คือโอกาสที่เปิดกว้างสำหรับทั้งสตาร์ทอัพและองค์กรใหญ่ ที่จะต้องรีบรุกคืบเพื่อเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจค้าปลีกสำหรับอนาคต
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ
วันที่ 24 พฤษภาคม 2566