SCADA คืออะไร? เข้าใจง่ายใน 3 นาที แบบไม่ต้องเป็นวิศวกร (อัปเดตปี 2025)


ถ้าเราจะอธิบาย SCADA แบบไม่ต้องใช้ศัพท์เทคนิคให้ปวดหัว ลองนึกภาพ ‘สมอง’ ของระบบอัตโนมัติในโรงงานหรือโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ มันไม่ใช่แค่คอมพิวเตอร์ แต่มันคือศูนย์บัญชาการที่คอยสังเกต จัดการ วิเคราะห์ และตอบสนองต่อทุกสิ่งที่เกิดขึ้นแบบเรียลไทม์ ไม่ว่าจะเป็นแรงดันไฟฟ้าในระบบส่งกำลัง อุณหภูมิในหม้อต้ม หรือแรงดันน้ำในท่อส่งน้ำ ระบบ SCADA จะรู้หมดและสั่งการได้อย่างแม่นยำ

หน้าที่ของ SCADA สามารถสรุปได้ 4 คำ ดูแล – เฝ้าดู – สั่งการ – แจ้งเตือน มันไม่ใช่ระบบที่ควบคุมอย่างเดียว แต่ยังมีหน้าที่รวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์ เพื่อให้ผู้ควบคุมสามารถตัดสินใจได้ดีขึ้น บางครั้ง SCADA เองก็ตัดสินใจแทนได้เลย เช่น หยุดเครื่องจักรทันทีหากเซ็นเซอร์จับได้ว่ามีแรงดันผิดปกติ

ในชีวิตจริง SCADA อยู่ในหลายระบบรอบตัวเราโดยที่เราไม่รู้ตัว เช่น โรงงานผลิตอาหารที่ต้องควบคุมอุณหภูมิและเวลาการปรุง ระบบไฟฟ้าแรงสูงที่ต้องรักษาแรงดันให้คงที่ หรือระบบน้ำประปาที่ต้องจัดการแรงดันเพื่อไม่ให้ท่อแตกกลางเมือง ทุกระบบเหล่านี้ต้องพึ่งพา SCADA ในการมองเห็นปัญหาและจัดการให้เร็วที่สุด

เบื้องหลังการทำงานของ SCADA มันทำงานยังไงถึงรู้ว่า ‘อะไรเสีย’

เบื้องหลังความฉลาดของ SCADA คือการเชื่อมต่อกันอย่างลงตัวของอุปกรณ์หลายชนิด ตั้งแต่เซ็นเซอร์ที่อยู่หน้างานไปจนถึงโปรแกรมซอฟต์แวร์บนคอมพิวเตอร์ที่ศูนย์ควบคุม ทุกอย่างทำงานเป็นขั้นเป็นตอนและมีลำดับที่ชัดเจน ซึ่งช่วยให้ระบบสามารถตรวจจับปัญหา วิเคราะห์สถานการณ์ และตอบสนองได้ในเวลาไม่ถึงวินาที

เริ่มต้นจาก เซ็นเซอร์ (Sensor) ที่ติดตั้งอยู่ตามจุดต่าง ๆ เช่น ถังเก็บน้ำ, หม้อต้ม, สายพาน หรือมอเตอร์ หน้าที่ของมันคือจับค่าทางกายภาพอย่างอุณหภูมิ ความชื้น ความเร็ว หรือแรงดัน แล้วส่งข้อมูลนั้นต่อไปยัง PLC หรือ RTU ซึ่งเป็นหน่วยประมวลผลเบื้องต้น ทำหน้าที่เปรียบเทียบกับค่าที่กำหนดไว้ ถ้าเกินหรือผิดปกติ ระบบจะส่งสัญญาณเตือนไปยังส่วนกลางทันที

จากนั้น ข้อมูลจะถูกส่งผ่านเครือข่ายสื่อสาร เช่น Ethernet หรือ Modbus TCP/IP ไปยังคอมพิวเตอร์ที่ติดตั้ง SCADA Software ซึ่งทำหน้าที่วิเคราะห์และแสดงผลแบบเรียลไทม์ผ่านหน้าจอควบคุม (HMI) ที่เข้าใจง่าย

การทำงานนี้อาจฟังดูธรรมดา แต่เมื่อคุณมีระบบที่ต้องควบคุมวาล์วนับพัน, มอเตอร์นับร้อย หรือโรงงานที่มีอุปกรณ์หลายร้อยจุด ทุกอย่างต้องสอดประสานกันอย่างไร้ข้อผิดพลาด SCADA จึงเป็นหัวใจ ของระบบควบคุมอัตโนมัติยุคใหม่

องค์ประกอบหลักของ SCADA ที่ต้องรู้ในปี 2025

การเข้าใจ SCADA แบบลึกซึ้งต้องรู้ว่าระบบนี้ไม่ได้มีแค่โปรแกรมในคอม แต่เป็นระบบที่ประกอบด้วย 5 ส่วนหลักที่ทำงานร่วมกันอย่างแนบเนียน โดยในปี 2025 แต่ละองค์ประกอบก็มีบทบาทมากขึ้นและมีเทคโนโลยีใหม่เข้ามาเสริม

Sensor / Input Device – อุปกรณ์จับสัญญาณ เช่น เครื่องวัดแรงดัน, วัดอุณหภูมิ, วัดระดับน้ำ ทำหน้าที่เหมือน ตา-หู ของระบบคอยจับทุกความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในโลกจริง

RTU / PLC – เป็นหน่วยประมวลผลเบื้องต้นทำงานใกล้หน้างานที่สุด เช่น ถ้า Sensor บอกว่าแรงดันเกิน PLC จะสั่งปิดวาล์วหรือหยุดปั๊มทันที ไม่ต้องรอคำสั่งจากศูนย์กลาง ยี่ห้อยอดนิยม เช่น Siemens S7, Allen-Bradley

SCADA Software – หัวใจหลักในการประมวลผล วิเคราะห์ และแสดงผล ใช้ในคอมพิวเตอร์ศูนย์ควบคุมเพื่อดูข้อมูลแบบเรียลไทม์ หรือย้อนไปดูประวัติย้อนหลัง เช่น Ignition, Wonderware, WinCC

HMI (Human Machine Interface) – หน้าจอที่คนควบคุมใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นจอทัชสกรีนในห้องควบคุม หรือจอแสดงผลในสนาม ช่วยให้มนุษย์เข้าใจข้อมูลซับซ้อนแบบง่าย ๆ และตัดสินใจได้รวดเร็ว

Communication Network – เครือข่ายที่ส่งข้อมูลจากเซ็นเซอร์ไปยัง PLC และไปยัง SCADA Software ต่อไปที่ HMI และกลับกัน ต้องเร็ว, เสถียร และปลอดภัย เช่น Ethernet, Modbus TCP/IP, OPC UA, หรือแม้แต่ 5G ในระบบใหม่

SCADA ต่างจาก DCS หรือ BMS และ IoT ยังไง? ไม่ใช่ทุกระบบออโตเมชันคือ SCADA

แม้ SCADA จะเป็นระบบควบคุมอัตโนมัติที่ทรงพลัง แต่ก็ไม่ใช่ระบบเดียวในโลกของ Automation ระบบอื่น ๆ อย่าง DCS และ BMS ก็มีบทบาทต่างกัน และการเข้าใจความแตกต่างนี้สำคัญมากในการเลือกใช้งานให้ถูกต้อง

DCS (Distributed Control System) คือระบบที่ใช้ควบคุมการผลิตเชิงลึกในโรงงานเฉพาะด้าน เช่น โรงกลั่นน้ำมัน โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ หรือโรงงานเคมีที่ต้องควบคุมอัตราการไหล วาล์ว และอุณหภูมิแบบละเอียดมาก ระบบนี้มักติดตั้งในพื้นที่เดียวและควบคุมทุกอย่างแบบรวมศูนย์

ในขณะที่ SCADA เหมาะกับระบบที่มีหน่วยงานกระจายตัว เช่น ระบบจ่ายน้ำที่มีปั๊มกระจายทั่วเมือง หรือโรงไฟฟ้าที่มีหลายไซต์ย่อย SCADA จึงออกแบบมาให้รองรับการทำงานจากระยะไกลและมองเห็นภาพรวมทั้งระบบได้ในหน้าจอเดียว

ส่วน BMS (Building Management System) คือระบบควบคุมภายในอาคาร เช่น ไฟฟ้า, แอร์, ระบบน้ำ, ระบบลิฟต์ ฯลฯ มันง่ายกว่าและเน้นความสะดวกสบายกับความประหยัดพลังงาน ไม่ใช่ระดับอุตสาหกรรมลึกแบบ SCADA หรือ DCS

ในขณะที่ IoT เกิดจากแนวคิดของการเชื่อมต่ออุปกรณ์เข้ากับอินเทอร์เน็ต เพื่อให้ส่งข้อมูลแบบเรียลไทม์และควบคุมได้จากที่ใดก็ได้ ซึ่งเหมาะกับงานที่ต้องการความยืดหยุ่น เช่น การติดตามสถานะของรถบรรทุก, การวัดอุณหภูมิห้องแช่เย็นในร้านสะดวกซื้อ หรือการบริหารพลังงานในตึกสำนักงาน IoT เน้นความสะดวก กระจายตัว และเชื่อมกับคลาวด์เป็นหลัก

เทคโนโลยี SCADA ในปี 2025 จะยังเหมือนเดิมอยู่มั้ย?

คำตอบสั้น ๆ คือ ไม่ครับเพราะระบบ SCADA กำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เทคโนโลยีใหม่ทำให้ SCADA ฉลาดขึ้นมากกว่าเดิมหลายเท่า โดย SCADA + Cloud ทำให้การเก็บและเข้าถึงข้อมูลไม่จำกัดอยู่ที่คอมในโรงงานอีกต่อไป ผู้จัดการสามารถเช็คสถานะการผลิตจากโทรศัพท์มือถือได้ทุกที่ในโลก นอกจากนั้น Edge Computing ยังทำให้ทำให้การประมวลผลเกิดขึ้นใกล้เซ็นเซอร์มากขึ้น ลดความหน่วงของการส่งข้อมูล และช่วยให้ระบบทำงานแม่นยำขึ้นแม้จะไม่มีอินเทอร์เน็ต

AI / Machine Learning กลายเป็นอาวุธลับของ SCADA ยุคใหม่ เพราะมันสามารถวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก เช่น รูปแบบการสั่นของมอเตอร์เพื่อตรวจจับว่า Bearings จะเสียในอีก 3 วันข้างหน้า

และแน่นอนว่า Cybersecurity กลายเป็นประเด็นสำคัญ SCADA ที่ใช้ควบคุมโรงไฟฟ้า หรือระบบน้ำประปาในเมืองใหญ่ ถือเป็น Critical Infrastructure ที่หากถูกโจมตีทางไซเบอร์ จะส่งผลมหาศาลต่อความมั่นคงของประเทศ

สรุป SCADA แบบคนไม่ใช่วิศวกรก็เข้าใจได้

ถ้าเปรียบโลกอุตสาหกรรมเป็นร่างกายมนุษย์ SCADA ก็คือสมองที่สั่งงานให้ระบบย่อยทั้งหมดทำงานสอดประสานกันอย่างแม่นยำโดยที่มนุษย์ไม่ต้องควบคุมเองทุกขั้นตอน

SCADA ทำหน้าที่เฝ้าดู ตรวจจับ วิเคราะห์ และสั่งการให้กระบวนการผลิต ระบบสาธารณูปโภค หรือระบบอัตโนมัติขนาดใหญ่ ทำงานได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ โครงสร้างของมันประกอบด้วย Sensor, RTU/PLC, Software, HMI และ Communication Network ซึ่งทั้งหมดต้องทำงานร่วมกันอย่างไร้รอยต่อ

แม้ SCADA จะไม่ใช่สิ่งที่เห็นได้ง่าย ๆ ในชีวิตประจำวัน แต่เบื้องหลังของไฟฟ้าที่ไม่ดับ น้ำที่ไม่ขาด และโรงงานที่ผลิตได้ตรงเวลา มักมี SCADA อยู่เบื้องหลังเสมอ เปรียบเสมือนพระเอกที่ไม่มีใครเห็น แต่ทุกโรงงานอาจต้องพึ่งพา

ที่มา : mmthailand

วันที่ 9 มิถุนายน 2568



ไฟล์เอกสารแนบ
-
ที่มา : MMthailand
ข้อมูลวันที่ : 2025-06-11 04:14:52
700/1 หมู่ 1 นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรี, ถ.บางนา-ตราด กม. 57, ต.คลองตำหรุ, อ.เมือง, จ.ชลบุรี 20000
038-215033-39, 033-266040-44
Icon made by Freepik from www.flaticon.com