COMPUTEX 2025 ชูธีม "AI NEXT" โชว์นวัตกรรมขับเคลื่อนอนาคต
COMPUTEX
TAIPEI 2025 กลับมาอย่างยิ่งใหญ่ 20–23 พ.ค.นี้ที่ไทเป เน้นบทบาท AI
ผลักดันศก. ยุคใหม่ เปิดพื้นที่จัดแสดง 8 หมื่นตารางเมตร
ดึงผู้แสดงสินค้ากว่า 1.4 พันรายเข้าร่วม
งานแสดงสินค้าเทคโนโลยี
B2B ระดับแนวหน้าของเอเชีย “COMPUTEX TAIPEI 2025” ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20–23 พฤษภาคม 2568 ณ
ศูนย์นิทรรศการไทเปหนานกัง ฮอลล์ 1 และ 2 กลับมาจัดแสดงอย่างเต็มรูปแบบ
โดยปีนี้จัดภายใต้ธีม 'AI NEXT' ตอบรับกระแสดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์
Taipei
Computer Association (TCA) หนึ่งในผู้จัดงาน เปิดเผยว่า COMPUTEX
2025 จะเน้นนำเสนอ 4
แนวโน้มเทคโนโลยีหลักที่กำลังเปลี่ยนโฉมอุตสาหกรรมโลก ได้แก่ AI Computing,
Future Mobility, Next-Gen Communication และ Green Energy
& Sustainability โดยมีพื้นที่จัดแสดงรวมกว่า 80,000 ตารางเมตร
และมีผู้ร่วมแสดงสินค้าเกือบ 1,400 ราย ครอบคลุม 4,800 บูธ
สำหรับเทคโนโลยีไฮไลต์ในปีนี้
ได้แก่ ปัญญาประดิษฐ์สร้างสรรค์ (Generative AI), โมเดลภาษา LLMs และ SLMs, ระบบ
Agent AI และ Physical AI รวมถึงผลิตภัณฑ์ใหม่
เช่น เซิร์ฟเวอร์ AI, ศูนย์ข้อมูล, คอมพิวเตอร์
AI, Edge AI, ยานยนต์ไฟฟ้า, ระบบช่วยขับอัจฉริยะ
(ADAS), หุ่นยนต์, โดรน, เทคโนโลยี RISC-V, WiFi 7
และระบบสื่อสารผ่านดาวเทียม
นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงโซลูชันในอุตสาหกรรมแนวตั้งที่หลากหลาย
เช่น การผลิตอัจฉริยะ ค้าปลีกอัจฉริยะ การแพทย์ดิจิทัล เกษตรอัจฉริยะ
และสมาร์ทซิตี้
เพื่อตอบโจทย์แนวโน้มเศรษฐกิจยุคใหม่ที่ต้องอาศัยเทคโนโลยีในการยกระดับประสิทธิภาพ
TCA
ยังเปิดโซนจัดแสดงใหม่ 2 โซน ได้แก่ AI Services &
Technologies Zone และ Robotics & Drones Zone รองรับกลุ่มเทคโนโลยีที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว
ภายในงาน
มีบริษัทเทคโนโลยีระดับโลกเข้าร่วมอย่างคับคั่ง อาทิ Acer,
ASUS, GIGABYTE, Intel, NVIDIA, MediaTek, Foxconn, MSI, Advantech, Supermicro,
Synology, Thermaltake, Seagate, KIOXIA, Realtek, LITEON, Transcend, ADATA และ Delta พร้อมด้วยองค์กรอุตสาหกรรมชั้นนำ เช่น TADA
(Taiwan Advanced Automotive Development Association), RVTA (RISC-V Taiwan
Alliance) และ tsta (Taiwan Smart Textiles Association) ที่เข้าร่วมแสดงศักยภาพนวัตกรรม
งาน
COMPUTEX
2025 จึงนับเป็นเวทีสำคัญที่สะท้อนทิศทางการลงทุนเทคโนโลยีแห่งอนาคต
และย้ำบทบาทของไต้หวันในฐานะศูนย์กลางเทคโนโลยีระดับโลก
ที่มา
:
ฐานเศรษฐกิจ
วันที่
22 พ.ค. 2568
