เทเลนอร์
เอเชีย เผยประเทศไทยเชื่อถือใน AI มากที่สุดในภูมิภาค
เมื่อเทียบกับกลุ่มผู้ใช้งานจากตลาดอื่น ๆ ในภูมิภาค
ขณะที่ชีวิตของคนไทยขับเคลื่อนด้วยดิจิทัลเป็นอันดับต้น ๆ ใช้เวลาออนไลน์เกือบ 5
ชั่วโมงต่อวัน
รายงาน
‘Digital
Lives Decoded 2024" ของประเทศไทย ฉบับล่าสุดของ เทเลนอร์
เอเชีย (Telenor Asia) เผยถึงข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมและทัศนคติด้านดิจิทัลของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย
ซึ่งจัดทำขึ้นโดย GlobalWebIndex (GWI) บริษัทที่ดำเนินงานวิจัยด้านผู้บริโภคระดับโลก
โดยรายงานครั้งนี้สะท้อนถึงอิทธิพลของการใช้โทรศัพท์มือถือที่ส่งผลต่อการหล่อหลอมวิถีการใช้ชีวิตที่ชาญฉลาดและปลอดภัยยิ่งขึ้นในประเทศไทย
นางสาวมานิช่า
โดกรา รองประธานอาวุโส ฝ่ายสื่อสารองค์กรและความยั่งยืนของเทเลนอร์เอเชีย
กล่าว“ในปีนี้ Telenor ได้ก้าวเข้าสู่ปีที่ 25
ในประเทศไทย ความก้าวหน้าของการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัลนั้นน่าทึ่งมาก
จากรายงานประจำปีนี้ได้แสดงถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นของผู้บริโภคอันเด่นชัดของประเทศไทย
ซึ่งขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีมือถือและศักยภาพในการสร้างการเปลี่ยนแปลงของ AI”
1.
การใช้งาน AI กำลังผงาดขึ้นในประเทศไทย
บนประโยชน์มากมายที่ยังพร้อมให้ค้นหาในสถานที่ทำงาน
AI
กำลังก้าวขึ้นมาเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญสำหรับวิถีชีวิตที่ชาญฉลาด
ปลอดภัย และเชื่อมต่อกันมากขึ้นในประเทศไทย
ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตชาวไทยเกือบครึ่งหนึ่งกล่าวว่า AI เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่พวกเขาตื่นเต้นมากที่สุด
ที่น่าสนใจคือ คนรุ่นเก่า (Gen X และ Baby Boomers) แสดงความตื่นเต้นเกี่ยวกับ AI มากกว่าคน Gen
Z และ Millennials
การตื่นตัวของคนต่อ
AI
ในประเทศไทยนั้นชัดเจนอย่างมาก โดยผู้ตอบแบบสอบถามกว่า 77%
ใช้เครื่องมือ AI อยู่แล้ว ในแง่ของการใช้งาน AI เพื่อความบันเทิงเป็นอีกหนึ่งด้านที่ผู้คนให้ความสำคัญ
โดยมากกว่าครึ่งของผู้ตอบแบบสอบถามใช้ AI สำหรับโซเชียลมีเดีย
และเกือบ 40% มีส่วนร่วมกับ AI บนแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง แม้ว่า
85% เชื่อว่า AI จะส่งผลดีต่อการศึกษาในประเทศไทย
อย่างไรก็ตามยังมีโอกาสมากมายของ AI มีอิทธิพลเชิงบวกอย่างมากในที่ทำงานแต่ยังไม่ได้มีการค้นพบวิธีปรับใช้อย่างที่เป็นรูปธรรมมากนัก
ปัจจุบันประเทศไทยยังตามหลังตลาดอื่นๆ
ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในการใช้เครื่องมือ AI ในสถานที่ทำงาน
โดยมีอัตราเพียง 1 ใน 5 เท่านั้นที่ใช้ AI เพื่อการทำงาน
เมื่อเทียบกับประเทศมาเลเซียและสิงคโปร์
ซึ่งการทำงานเป็นพื้นที่ที่มีการใช้งานมากที่สุด โดยผู้ที่ใช้ AI เพื่อทำงานนั้นมีแนวโน้มสูงกว่าผู้ที่ไม่เชื่อว่า AI จะส่งผลบวกต่อความมั่นคงในการทำงานถึง 13% นอกจากนี้
พวกเขายังมีแนวโน้มสูงกว่า 43% ที่จะเชื่อถือในข้อมูลที่สร้างโดย AI โดยเฉพาะจากแชทบอตของ AI อีกด้วย
ผู้มีรายได้สูงมีแนวโน้มที่จะเลือกใช้
AI
ในที่ทำงานมากกว่า 21% นอกจากนี้
พวกเขามักจะมีมุมมองแง่บวกเกี่ยวกับอิทธิพลเชิงบวกของการใช้ AI ต่อสังคมมากขึ้น เนื่องจากมีการนำ AI มาใช้ในสถานที่ทำงานเพิ่มขึ้น
จึงคาดว่าจะส่งผลดีต่อส่วนอื่นๆ ของสังคมด้วย
2.
ความขัดแย้งในด้านของความเป็นส่วนตัว:
ผู้คนให้ความสำคัญกับความสะดวกสบายมากกว่าความเป็นส่วนตัว
ในยุคที่อุปกรณ์ต่างๆ
มีการนำ AI
เข้ามาเป็นตัวขับเคลื่อน
โทรศัพท์มือถือช่วยให้ผู้คนในประเทศไทยสามารถเข้าถึงข่าวสารล่าสุดพร้อมรับความบันเทิงได้ด้วยตนเอง
นอกจากนี้ยังเป็นช่องทางในการสร้างรายได้ โอกาสทางการศึกษา
และเสริมชุมชนที่รู้ทันโลก ปลอดภัย และเชื่อมต่อกันมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม
ผู้คนสามในสี่คนรู้สึกว่าตนเองไม่สามารถควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลของตนทางออนไลน์ได้
ซึ่งถือเป็นสัดส่วนที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
(โดยอยู่ที่ 68%)
การหลอกลวงทางการเงินและการขโมยข้อมูลส่วนตัวยังเป็นปัญหาสำคัญอันดับต้นๆ ในประเทศไทย
โดยอย่างน้อย 1 ใน 2 ของกลุ่มคนยังกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้
ทั้งนี้ทั้งนั้นประชาชนในประเทศไทยยังคงมั่นใจในการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของตนทางออนไลน์
และมีแนวโน้มน้อยที่สุดที่จะกังวลเกี่ยวกับวิธีที่บริษัทต่างๆ
ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของตนเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคนี้
อัตราของประชากรไทยนั้นมีค่อนข้างสูงที่เชื่อใจเว็บไซต์ที่ตนใช้งานในแง่ของการที่เว็บไซต์เหล่านั้นจะสามารถปกป้องความเป็นส่วนตัวของพวกเขาได้
(โดยมีมากถึงกว่า 38% เทียบกับเพียง 21% ในประเทศสิงคโปร์)
และมีแนวโน้มที่จะอนุญาตให้บริษัทเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของพวกเขาเพื่อแลกกับข้อเสนอและบริการส่วนบุคคล
(6 ใน 10 เทียบกับประเทศมาเลเซีย และ 5 ใน 10 เทียบกับประเทศสิงคโปร์)
สิ่งเหล่านี้เน้นย้ำถึงความย้อนแย้งในด้านของความเป็นส่วนตัวทั่วไป
อย่างไรก็ตามในขณะที่ผู้คนแสดงความกังวลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว
แต่พวกเขาไม่ยอมที่จะละทิ้งความสะดวกสบายในชีวิตประจำวันโดยที่ยอมจำนนต่อการเสียความเป็นส่วนตัวบางส่วน
3.
คนไทยยังมีทัศนคติที่ดีเกี่ยวกับ AI และสิ่งที่
AI สามารถเสริมการใช้ชีวิตที่รู้ทันโลกและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
คนไทยตระหนักถึงการที่
AI
สามารถช่วยให้เราทุกคนรู้ทันโลกและปลอดภัยมากขึ้น โดย 6 ใน 10
ของคนรู้สึกตื่นเต้นกับความสามารถที่เป็นเลิศของ AI และเชื่อว่าอุปกรณ์มือถือของพวกเขาจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อผนวกการใช้งานกับ
AI แต่ทว่าสิ่งที่น่าสนใจก็คือ
แม้แต่ผู้ที่กังวลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวของข้อมูลก็มีมุมมองที่คล้ายคลึงกันเกี่ยวกับประสิทธิภาพและรู้สึกตื่นเต้นกับประโยชน์มากมายของ
AI โดยผู้ตอบแบบสอบถามกว่า 51%
กล่าวว่าพวกเขาคาดหวังว่าอุปกรณ์มือถือที่ขับเคลื่อนโดย AI จะมอบความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นและเพิ่มเกราะป้องกันด้านข้อมูลส่วนตัวที่แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
ความวิตกกังวลเกี่ยวกับอุปกรณ์ที่ขับเคลื่อนโดย
AI
นั้นลดลงในประเทศไทยมากกว่าในประเทศมาเลเซียและสิงคโปร์
และความเชื่อมั่นในข้อมูลที่สร้างโดย AI ก็สูงขึ้นในทุกด้านของประเทศไทย
นางสาวมานิช่า
โดกรา สรุปว่า “เพื่อประโยชน์ของการใช้งานสูงสุดจากเทรนด์ของเทคโนโลยีที่อยู่รอบ ๆ
ตัวเราอย่างเต็มที่ สร้างความเชื่อมั่น ให้ความสำคัญกับการศึกษาเรียนรู้
และรับผิดชอบในการใช้งานด้านดิจิทัลถือว่าเป็นหัวใจสำคัญซึ่งจะให้ผู้ใช้ในประเทศไทยสามารถเติบโตและเข้าถึงได้อย่างมั่นใจในยุคของ
AI”
ที่มา
:
ฐานเศรษฐกิจ
วันที่
27 มกราคม 2568