igus พร้อมเปิดตัวนวัตกรรมใหม่ 277 รายการในปี 2025
นำเสนอโซลูชันไร้สารหล่อลื่นและเป็นกลางทางคาร์บอนสู่อุตสาหกรรมไทย
igus ในฐานะผู้นำด้าน motion
plastics หรือพลาสติกสำหรับงานเคลื่อนไหว
ได้ประกาศยอดขายรวมทั่วโลกที่ 1.105 พันล้านยูโร
พร้อมการเติบโตของจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้นถึง 5%
ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ผันผวน
ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนถึงการเติบโตและความไว้วางใจจากลูกค้าทั่วโลก
รวมถึงในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศไทย
สำหรับปี 2025 igus เตรียมเปิดตัว นวัตกรรมใหม่กว่า 277 รายการ
ภายใต้แนวคิด “GO ZERO Lubrication” หรือการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้วยชิ้นส่วนที่
ไม่ต้องการสารหล่อลื่น ลดค่าใช้จ่ายการบำรุงรักษา และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
ซึ่งเป็นแนวทางที่ igus ให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าในอุตสาหกรรมการผลิต
เครื่องจักรกล และระบบอัตโนมัติ
นวัตกรรมเด่นที่เตรียมเปิดตัวในปี 2025 ซึ่งตอบโจทย์ตลาดไทย ได้แก่
· วัสดุปลอดสาร
PTFE
: บูชพลาสติก iglidur G, X และ H ที่ปราศจากสาร PTFE แต่ยังคงประสิทธิภาพและราคาใกล้เคียงเดิม
· รางกระดูกงูจากวัสดุรีไซเคิล:
ผ่านโครงการ “Chainge” ที่สามารถนำวัสดุเก่ากลับมาใช้ใหม่
ลดการปล่อย CO₂
ได้สูงถึง 80%
· iMSPO
(igus Mobile Shore Power Outlet) ปลั๊กจ่ายไฟเคลื่อนที่สำหรับเรือ:
ช่วยลดมลพิษทางอากาศในท่าเรือ เริ่มใช้งานแล้วในท่าเรือระดับโลก
และอาจมีศักยภาพในการนำมาต่อยอดในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์และการขนส่งของไทย
· glide-chain
G4.42: ชุดรางกระดูกงูน้ำหนักเบา สำหรับการใช้งานแบบเลื่อน เช่น
บนเครนภายในอาคาร ลดน้ำหนักได้ 12-25%
และประหยัดค่าใช้จ่ายได้ 30-40% เมื่อเทียบกับแบบมาตรฐาน
· หุ่นยนต์ต้นทุนต่ำจากพลาสติกประสิทธิภาพสูง:
โดยพัฒนาหุ่นยนต์เคลื่อนที่ ReBeL Move และแขนกล cobot
ของ ReBeL เพื่อความยืดหยุ่นในการใช้งานในสถานที่ต่าง
ๆ
เติบโตไปด้วยกัน –
ทั้งในระดับโลกและในประเทศไทย
ทุกความสำเร็จของ igus
ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงที่สำนักงานใหญ่ในโคโลญจน์
แต่คือแรงขับเคลื่อนร่วมกันของทีมงานและพันธมิตรกว่า 35
ประเทศทั่วโลก รวมถึง igus motion plastic (Thailand) ที่มีบทบาทสำคัญในการส่งมอบนวัตกรรมสู่มือของลูกค้าในภาคการผลิต
เครื่องจักรกล ระบบอัตโนมัติ และอุตสาหกรรมทางทะเล
เรามีทีมวิศวกรและที่ปรึกษาที่เข้าใจความต้องการของลูกค้าไทย
พร้อมให้บริการตั้งแต่การออกแบบ ทดลอง ไปจนถึงการติดตั้ง
โดยได้รับการสนับสนุนจากเครือข่าย R&D และโรงงานผลิตของ
igus ทั่วโลก ซึ่งกำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทั้งในเยอรมนี
จีน อินเดีย และสหรัฐฯ
มุ่งสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี
2025 ร่วมกัน
ตั้งเป้าที่จะเป็นกลางทางคาร์บอนในด้านอาคารและการผลิตภายในสิ้นปี
2025 โดยปัจจุบันสามารถลดการปล่อย CO₂ ได้แล้วถึง 92% ผ่านโครงการต่างๆ เช่น ระบบพลังงานแสงอาทิตย์ การรีไซเคิลพลาสติก
และการใช้พลังงานเหลือทิ้ง
สำหรับ igus motion
plastic (Thailand) การสนับสนุนผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืนและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมถือเป็นส่วนหนึ่งของพันธกิจหลัก
เรามุ่งนำเสนอโซลูชันที่ไม่เพียงตอบโจทย์ด้านประสิทธิภาพและต้นทุน
แต่ยังเป็นมิตรต่อโลก เพื่อร่วมสร้างอนาคตที่ยั่งยืนไปพร้อมกับลูกค้าในประเทศไทย
ที่มา :
mmthailand
วันที่ 9 มิถุนายน 2568