จับสงคราม AI “สหรัฐ-จีน”ครึ่งปีหลังเดือด บิ๊กเทคแห่ปล่อยนวัตกรรมใหม่ชิงตลาด
ในช่วงครึ่งปีหลังการแข่งขันสมรภูมิ
AI
โลกระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนจะยิ่งทวีความเข้มข้นมากขึ้น
เมื่อผู้พัฒนา AI ของท้ง 2ประเทศต่างกำลังเตรียมปล่อยโมเดล AI
ใหม่ออกสู่ตลาดที่มีศักยภาพในการพลิกโฉมอุตสาหกรรมหลายด้าน
ล่าสุด
Google ได้ปล่อยตัวเต็ม Gemma 3n โมเดล AI ล่าสุดที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานบนอุปกรณ์พกพา
(mobile-first) ด้วยความสามารถในการประมวลผลข้อมูลหลากหลายรูปแบบ
เช่น เสียง วิดีโอ รูปภาพ และข้อความ
โดยโมเดลนี้ถูกพัฒนาเพื่อให้สามารถทำงานได้ดีในอุปกรณ์ที่มีข้อจำกัดเรื่องทรัพยากร
เช่น หน่วยความจำเพียง 2-3GB แต่ยังคงสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เทคโนโลยีที่ใช้ใน Gemma 3n มีสถาปัตยกรรมที่เรียกว่า
MatFormer ซึ่งช่วยให้โมเดลมีความยืดหยุ่นสูงในการปรับใช้งานตามข้อกำหนดของฮาร์ดแวร์
โมเดลนี้มีการใช้งานที่หลากหลาย ตั้งแต่แอปพลิเคชันแปลภาษา การวิเคราะห์ภาพ
ไปจนถึงการแปลงเสียงเป็นข้อความในแบบออฟไลน์ ซึ่งทำให้ Gemma 3n เป็นโมเดล AI ที่เหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันโดยไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
ฟีเจอร์เด่นของ
Gemma
3n คือการที่โมเดลสามารถปรับขนาดการทำงานได้ระหว่างโมเดลเล็ก
(E2B) กับโมเดลใหญ่ (E4B) โดยใช้สถาปัตยกรรมที่มีประสิทธิภาพในการประมวลผลข้อมูล
โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาเซิร์ฟเวอร์ภายนอก ซึ่งทำให้เป็นการพัฒนา AI ที่เหมาะสมกับอุปกรณ์ Edge และทำงานได้ดีในสภาพแวดล้อมที่ไม่ต้องการการเชื่อมต่อกับคลาวด์
Elon
Musk เปิด Grok 4 หลัง 4 ก.ค.
ส่วน Elon Musk ประกาศว่า xAI จะเปิดตัว Grok 4
หลังวันที่ 4 กรกฎาคมนี้ โดยเวอร์ชันใหม่นี้จะมาพร้อม ระบบวิเคราะห์โค้ดขั้นสูง
และกำลังอยู่ระหว่าง “big run” สุดท้ายก่อนเปิดตัว
Elon
Musk วางแผนใช้ Grok 4 เพื่อ
ปรับปรุงชุดข้อมูลการฝึก AI ทั่วทั้งอินเทอร์เน็ตเป้าหมายคือ
ลบข้อมูลผิด ๆ, เติมข้อมูลที่ขาด และกำจัด “ข้อมูลขยะ”
เพื่อสร้างฐานข้อมูลใหม่ที่สะอาดและแม่นยำมากขึ้น
Grok
3
ที่เปิดตัวเมื่อเดือนกุมภาพันธ์มีพลังการประมวลผลสูงกว่าเวอร์ชันก่อน 10 เท่า
และให้บริการแก่ผู้ใช้งาน X Premium Plus และผ่านแพลตฟอร์มของ
xAI โดยเฉพาะ
นอกจากนี้
X
(แพลตฟอร์มเดิมคือ Twitter) ได้จับมือกับ Polymarket
แพลตฟอร์มพยากรณ์แบบ decentralized เพื่อผลักดันการคาดการณ์ด้วยข้อมูลตลาดเข้าสู่กระแสหลัก
AI
จีน “Zhipu AI”- Hunyuan-A13B พร้อมชน
ขณะที่จีนกำลังมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยี
AI
ที่สามารถแข่งขันกับสหรัฐได้
โดย Zhipu AI เป็นหนึ่งในบริษัทที่ได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากรัฐบาลจีน
บริษัทนี้กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วในตลาด AI ทั่วโลก
โดยมีการพัฒนาโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) ที่มีประสิทธิภาพสูงและสามารถรองรับหลายภาษา
Zhipu AI มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลในประเทศที่กำลังพัฒนา
โดยใช้ AI ในการส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจและลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากตะวันตก
ฟีเจอร์เด่นของ
Zhipu
AI คือการที่โมเดลมีการใช้งานหลากหลายภาษาและสามารถทำงานได้ในหลายประเทศ
รวมถึงการพัฒนาโครงการศูนย์นวัตกรรมร่วมในหลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
การขยายตัวของ Zhipu AI ทำให้จีนสามารถสร้างอิทธิพลในตลาด AI
ของโลก และมุ่งหวังที่จะเป็นผู้นำในด้านนี้
ขณะที่บิ๊กเทคจีน Tencent เปิดตัว
Hunyuan-A13B โมเดล AI ที่มีพารามิเตอร์สูงถึง 80 พันล้าน แต่เลือกใช้เพียง 13
พันล้านพารามิเตอร์ในการประมวลผลแต่ละครั้ง
ซึ่งทำให้โมเดลนี้มีประสิทธิภาพในการทำงานที่หลากหลายและเหมาะสมกับการใช้งานในหลายๆ
ด้าน โดยเฉพาะในการประมวลผลข้อความยาวและงานที่ต้องการการวิเคราะห์เชิงลึก ฟีเจอร์เด่นของ
Hunyuan-A13B คือการใช้สถาปัตยกรรม Mixture
of Experts (MoE) ที่ช่วยให้การประมวลผลมีความรวดเร็วและแม่นยำ
Hunyuan-A13B ยังมีความสามารถในการเชื่อมต่อกับเครื่องมือภายนอกผ่านคำสั่งภาษาธรรมชาติ
เพื่อให้สามารถประมวลผลข้อมูลได้ตามคำสั่งที่ซับซ้อน
ชุดข้อมูลที่ได้รับการพัฒนาโดย Tencent ยังได้เปิดให้ใช้งานบน
GitHub และ Hugging Face เพื่อกระตุ้นการวิจัยและการพัฒนาในวงกว้าง
การพัฒนา
AI
ในอนาคตจะไม่เพียงแค่แข่งกันในด้านเทคโนโลยี
แต่ยังจะเกี่ยวข้องกับการกำหนดมาตรฐานระดับโลกในการใช้งานและการควบคุมข้อมูล
ซึ่งการแข่งขันนี้จะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจและอำนาจทางภูมิรัฐศาสตร์ในอนาคต.
ที่มา
:
ฐานเศรษฐกิจ
วันที่
1 ก.ค. 2568
