Cybersec
Asia x Thailand International Cyber Week 2024 ได้ปิดฉากลงอย่างสวยงามเมื่อวันที่
1 ก.พ. 2024 ณ
ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC) ซึ่งเนื้อหาต่าง ๆ
ภายในงานเรียกว่ามีแต่สิ่งที่ต้องจับตาและกระตุ้นให้เกิดความระแวดระวังกันทั้งสิ้น
ซึ่งประเด็นสำคัญที่ต้องคอยดูกันต่อไปในปีนี้และเวลาอันใกล้สามารถแบ่งออกได้เป็น 3
ประเด็น
งานสัมมนาและแสดงโซลูชันด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์
Cybersec
Asia x Thailand International Cyber Week 2024
ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง VNU Asia และ NCSA ที่สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญและเร่งด่วนในเรื่องของความปลอดภัยทางไซเบอร์
ไม่ว่าจะเป็นผู้เข้าชมงานที่ให้ความสนใจกันอย่างต่อเนื่อง
ผู้ร่วมออกแสดงงานจากหลากหลายประเทศ
ตลอดจนหัวข้อสัมมนาที่ลงลึกไปในด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่ครอบคลุมหลากหลายธุรกิจ
แม้ว่างานในปี
2024 สำหรับประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียจะจบลงไปแล้ว
แต่กระแสและข้อมูลที่เกิดจากงานนั้นนำไปสู่ประเด็นด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่ชัดเจน
ทั้งยังต้องได้รับความใส่ใจเพื่อให้เกิดการลงมือทำอย่างแข็งขัน แบ่งได้เป็น 3 ประเด็นหลัก ได้แก่
1.
ความปลอดภัยทางไซเบอร์ต้องเกิดขึ้นภายใต้ความร่วมมือระดับสากล
การโจมตีที่เกิดขึ้นในปัจจุบันนั้นมักจะเป็นการตั้งฐานการโจมตีมาจากต่างประเทศ
ดังนั้นความร่วมมือหรือการมีภาคีระหว่างประเทศสำหรับด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การปราบปรามเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ยังเป็นการแบ่งปันข้อมูลและความเชี่ยวชาญจากประเทศต่าง ๆ
ซึ่งสามารถเสริมความแข็งแกร่งของความปลอดภัยที่จะเกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี
2.
ความสำเร็จของการป้องปรามทางไซเบอร์ไม่ว่ารัฐหรือเอกชนนั้นเริ่มต้นที่นโยบาย
เรื่องของโลกดิจิทัลหรือไซเบอร์นั้นนัยหนึ่งเป็นสิ่งที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
แต่ก็ไม่ต่างจากภูเขาน้ำแข็งก้อนใหญ่ที่ไม่ได้มองเห็นทั้งหมด
และอาจไม่รับรู้ทั้งหมดได้อีกด้วย
การวางแนวทางป้องปรามจึงไม่ใช่แค่การให้ความรู้กับผู้คนอย่างทั่วถึงเท่านั้น
แต่ยังต้องมีแนวนโยบายที่ชัดเจน เช่น มาตรฐานจากภาครัฐหรือหน่วยงานที่มีหน้าที่
ตลอดจนการวางนโยบาย ข้อกำหนด
และบทลงโทษสำหรับหน่วยงานเอกชนก็ยังเป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อให้เกิดความคล่องตัวภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเงื่อนไขของรัฐไทยที่มีข้อขัดแย้งที่ทำให้เชื่องช้าอยู่มาก
3.
คนยังคงเป็นปราการด่านสุดท้ายที่สำคัญที่สุดแม้ว่าจะมีการ Automated
หรือใช้ AI แล้วก็ตาม
แม้ในปัจจุบันการโจมตีทางไซเบอร์ที่เกิดขึ้นในเวลาเพียงไม่กี่วินาทีจะมีการเข้าถึงเป็นร้อยเป็นพันครั้งได้
ทำให้เกิดความต้องการในการใช้งานเทคโนโลยีอัตโนมัติหรือ AI
ต่าง ๆ เพื่อช่วยแก้ไขกับการโจมตีที่เน้นจำนวน
แต่สำหรับการโจมตีรูปแบบใหม่ หรือการโจมตีที่มีระดับความวิกฤติสูงแล้ว
ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านยังคงมีความสำคัญอย่างมากในการรับมือกับรูปแบบการโจมตีที่เปลี่ยนแปลงไปหรือมีความอ่อนไหวสูง
แม้ว่าองค์กรหรือบริษัทจะมีการลงทุนแพลตฟอร์ม
รวมถึงเทคโนโลยีใหม่ ๆ
แต่การดำเนินการที่ขาดความชัดเจนด้านนโยบายและขาดพันธมิตรที่คอยสนับสนุน
ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือผู้เชี่ยวชาญภายในองค์กรก็อาจกลายเป็นช่องโหว่ตั้งแต่เรื่องพื้นฐานที่นำไปสู่ความเสียหายมูลค่ามหาศาลได้เช่นกัน
ที่มา : MMThailand
วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2567