ล้มกระดานเน็ตฯสธ.
บอร์ดกสทช.โหวตคว่ำ4:3 หลังจากประชุมนัดพิเศษ 3 ครั้ง
เพื่อให้แก้ไขเนื้อหาโครงการตรงกับวัตถุประสงค์ของการจัดสรรงบประมาณด้านโทรคมนาคม
แต่สนง.ตีมึนส่งเอกสารเดิมไม่ยอมปรับ
แหล่งข่าวจาก
สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ
หรือ สำนักงาน กสทช. กล่าวว่า เมื่อวันที่ 19 พ.ค.2566 ที่ผ่านมา บอร์ดกสทช. มีการประชุมนัดพิเศษ เพื่อพิจารณาร่างแผนปฏิบัติการ
การจัดให้มีบริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึงและบริการเพื่อสังคม ประจำปี 2565 ฉบับที่ 2
ภายใต้แผนการจัดให้มีบริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึงและบริการเพื่อสังคม ฉบับที่
3 (พ.ศ.2565) โครงการโทรเวชกรรมถ้วนหน้า
(Universal Telehealth Coverage : UTHC) หรือ เทเลเฮลท์
ตามโครงการบริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึง (Universal Service Obligation
:USO) ตามแผนการจัดให้มีบริการโทรคมนาคมพื้นฐานเพื่อมิติเชิงสังคม
และมีส่วนของระบบโทรคมนาคมเพื่อสาธารณสุขได้ งบประมาณ 3,850
ล้านบาท
โดยบอร์ดได้ลงมติ
4:3 ยกเลิกโครงการดังกล่าวแล้ว
และให้สำนักงานกสทช.นำโครงการอื่นที่เกี่ยวข้องกับโทรคมนาคม
เพื่อรองรับระบบสาธารณสุข มาเสนอแทนทันที เช่น การขยายโครงข่ายโทรคมนาคมในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล
(รพสต.) โดยเฉพาะในพื้นที่ชายขอบ ในครั้งต่อไป เป็นต้น
สำหรับบอร์ด
4 คน ที่โหวตยกเลิกโครงการเทเลเฮลท์ ประกอบด้วย นางสาวพิรงรอง รามสูต
กสทช.ด้านกิจการโทรทัศน์,พลอากาศโท ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ
กสทช.ด้านกิจการกระจายเสียง,นายศุภัช ศุภชลาศัย
กสทช.ด้านเศรษฐศาสตร์ และนายสมภพ ภูริวิกรัยพงศ์ กสทช.ด้านโทรคมนาคม
ขณะที่บอร์ด
3 คน ที่ยกมือโหวตให้โครงการเดินหน้าต่อ คือ นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์
ประธานกสทช.,นายต่อพงศ์ เสลานนท์
กสทช.ด้านการส่งเสริมสิทธิเสรีภาพของประชาชน และ พลตำรวจเอก ณัฐธร เพราะสุนทร
แหล่งข่าวกล่าวว่า
บอร์ดทั้ง 4 คน ไม่ได้ต้องการขัดขวางโครงการ
เทเลเฮลท์ แต่บอร์ดไม่สามารถโหวตงบประมาณโครงการดังกล่าวได้
เนื่องจากงบประมาณที่ใช้ส่วนใหญ่ในโครงการเป็นการลงทุนระบบไอที
ซึ่งไม่ตรงกับวัตถุประสงค์ของการให้งบประมาณที่เกี่ยวข้องกับการขยายโครงข่ายด้านโทรคมนาคม
ดังนั้นในการประชุมบอร์ดตั้งแต่วันที่
15 มี.ค. 2566 ที่ผ่านมา จึงมีความเห็นให้สำนักงาน
กสทช.กลับไปปรับปรุงเนื้อหาโครงการให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์
แต่หลังจากกำหนดประชุมนัดพิเศษมา 3 ครั้ง
เนื้อหาในโครงการก็ยังไม่ได้ปรับปรุงตามที่บอร์ดเสนอ
จนกระทั่งในการประชุมนัดพิเศษเมื่อวันที่
19 พ.ค.2566 ที่ผ่านมา บอร์ดมีความเห็นว่า
หากต้องอนุมัติงบประมาณสามารถอนุมัติได้แค่หลักร้อยล้านบาท
ที่เกี่ยวข้องกับโทรคมนาคม เท่านั้น ส่วนที่เหลือที่เป็นระบบไอที
ควรเป็นหน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุขในการตั้งงบประมาณเพิ่มเติม หรือ
ต่อยอดโครงการเอง เหมือนการสร้างถนน กสทช.มีหน้าที่สร้างถนน ไม่ใช่ซื้อรถยนต์ให้
ทั้งนี้
ในที่ประชุม นายศุภัช
ขอให้สำนักงานกสทช.กลับไปทำรายละเอียดเพิ่มเติมว่าโครงการมีประโยชน์อย่างไร
ซ้ำซ้อนหรือไม่ ไปก่อนหน้านี้ แต่สำนักงานกสทช.ตอบไม่ได้ และไม่ได้ทำเนื้อหาเพิ่มเติมมาเสนอ
ขณะที่นายสมภพ
ก็ได้ชี้แจงอย่างละเอียดว่าโครงการที่เข้ากับวัตถุประสงค์ด้านโทรคมนาคมต้องมีรูปแบบไหนบ้าง
แต่ประธานกสทช.ต้องการให้โครงการโดยภาพรวมสามารถขับเคลื่อนได้ทั้งโครงการ
ทั้งโทรคมนาคมและไอที
แหล่งข่าว
กล่าวว่า ไม่เพียงเทเลเฮลท์ เท่านั้น
แต่บอร์ดกสทช.ยังพิจารณาทุกโครงการในมาตรฐานเดียวกัน คือ เน้นโครงการด้านโทรคมนาคม
จึงยังมีอีกหลายโครงการที่ไม่ผ่านการอนุมัติ เช่น
โครงการระบบร้องเรียนของศูนย์ดำรงธรรม,โครงการขอซื้อโดรนของกองทัพ
เป็นต้น ดังนั้นจึงเป็นการแสดงให้เห็นว่ากสทช.มีมาตรฐานที่ชัดเจนในการอนุมัติงบประมาณที่ตรงกับวัตถุประสงค์อย่างแท้จริง
อย่างไรก็ตาม
ในการประชุมนัดพิเศษดังกล่าว
ประธานกสทช.พยายามที่จะให้บอร์ดอนุมัติในหลักการไปก่อน
แต่ที่ประชุมส่วนใหญ่เห็นว่า เป็นวาระที่เสนอเพื่อพิจารณา
ไม่สามารถอนุมัติในหลักการได้ จึงมีการเสนอให้โหวต และบอร์ดมีครบแล้ว 7 คน ไม่เหมือนก่อนหน้านั้นที่มีเสียงเพียง 6 คน
จนเกิดดับเบิ้ลโหวตของประธาน อย่างที่ผ่านมา
สำหรับรายละเอียดของโครงการดังกล่าวภายใต้งบประมาณ
8,000 ล้านบาทนั้น แบ่งเป็น 2 แผนยุทธศาสตร์ ได้แก่ แผน 1 วงเงิน 5,000 ล้านบาท เป็นการจัดให้มีบริการโทรคมนาคมพื้นฐานเพื่อมิติเชิงสังคม
-ระบบโทรคมนาคมเพื่อสาธารณสุข 3,850 ล้านบาท หรือ
เทเลเฮลท์
-ระบบโทรคมนาคมเพื่อคนพิการและผู้ด้อยโอกาสในสังคม 1,000 ล้านบาท แผน 2 วงเงิน 3,000
ล้านบาท
-ระบบโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ 2,000 ล้านบาท
ระบบโทรคมนาคมเพื่อความมั่นคง 1,000 ล้านบาทภายใต้นโยบายไทยแลนด์
4.0 โดยมีพื้นที่เป้าหมาย 13 เขตสุขภาพ
แบ่งเป็น 1,147 หน่วยบริการ
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ
วันที่ 24 พฤษภาคม 2566