อาลีบาบา
คลาวด์ (Alibaba
Cloud) ธุรกิจด้านเทคโนโลยีดิจิทัล
และหน่วยงานหลักด้านอินเทลลิเจนซ์ของอาลีบาบา กรุ๊ป เปิดผลสำรวจเรื่อง “คลาวด์” The
Next-Generation Cloud Strategy in Asia พบว่า 84%
ของผู้ใช้คลาวด์ในปัจจุบัน คาดว่า จะลงทุนด้านคลาวด์เพิ่มขึ้นในปีนี้
อาลีบาบา
คลาวด์ (Alibaba
Cloud) ธุรกิจด้านเทคโนโลยีดิจิทัล
และหน่วยงานหลักด้านอินเทลลิเจนซ์ของอาลีบาบา กรุ๊ป เปิดผลสำรวจเรื่อง “คลาวด์” The
Next-Generation Cloud Strategy in Asia พบว่า 84%
ของผู้ใช้คลาวด์ในปัจจุบัน คาดว่า จะลงทุนด้านคลาวด์เพิ่มขึ้นในปีนี้
ขณะที่มากกว่าสี่ในห้า (84%) กำลังวางแผน
ย้ายการดำเนินงานทั้งหมดไปยังคลาวด์อย่างเต็มรูปแบบภายใน 2 ปี
ลงทุนคลาวด์ยังเพิ่มสูง
บริษัทต่างๆ
ย้ายการดำเนินงานทางธุรกิจที่สำคัญไปไว้บนออนไลน์มากขึ้น
หลังการแพร่ระบาดเพื่อให้จัดการกับเวิร์กโหลดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ส่วนธุรกิจในเอเชียที่ใช้บริการคลาวด์อยู่แล้ววางแผนเพิ่มการลงทุนด้านคลาวด์ให้กับแผนกลยุทธ์การใช้คลาวด์ที่หลากหลายในปีหน้า
สำหรับประเทศที่มีแนวโน้มลงทุนเพิ่มขึ้น
ได้แก่ ประเทศไทย 95% อินโดนีเซีย 94% ฟิลิปปินส์ 91% เขตบริหารพิเศษฮ่องกง 83%
และสิงคโปร์ 83% ขณะที่ผลสำรวจในญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ส่วนใหญ่ระบุว่า
จะคงระดับการลงทุนในปัจจุบันนี้ไว้ต่อไป ทั้งนี้ในบรรดาอุตสาหกรรมหลักต่างๆ คาดว่า
อุตสาหกรรมเกมจะมีการลงทุนด้านคลาวด์เพิ่มขึ้นมากที่สุด
รองลงมาคืออุตสาหกรรมสื่อและโทรคมนาคม อินเทอร์เน็ตและเทคโนโลยี
และบริการทางการเงินตามลำดับ
เมื่อระบุถึงลำดับความสำคัญในการลงทุน
ธุรกิจในเอเชียจำนวนมากจะให้ความสำคัญกับการวิเคราะห์ข้อมูล และ AI
(53%) คลาวด์คอมพิวติ้ง (52%) และระบบอัตโนมัติ (46%)
การที่ธุรกิจมากกว่าครึ่งวางแผนที่จะเพิ่มการลงทุนด้านคลาวด์คอมพิวติ้ง
เป็นการย้ำให้เห็นว่าโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ที่มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการเติบโตทางธุรกิจ
"เซลินา
หยวน" รองประธาน อาลีบาบา กรุ๊ป และประธานด้านธุรกิจระหว่างประเทศ อาลีบาบา
คลาวด์ อินเทลลิเจนซ์ กล่าวว่า การวิจัยล่าสุดเผยให้เห็นข้อมูลเชิงลึก
เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจ และผู้ให้บริการคลาวด์ในเอเชีย
คลาวด์เป็นเทคโนโลยีสำคัญที่ธุรกิจต้องใช้ก่อนอย่างอื่น เพื่อปูทางสู่ความสำเร็จ
และลูกค้าก็กำลังใช้กลยุทธ์คลาวด์ที่หลากหลาย
เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจในยุคดิจิทัล
โครงสร้างพื้นฐานคลาวด์เป็นรากฐานสำคัญที่สุดที่สามารถรองรับนวัตกรรมล้ำสมัยต่างๆ
เช่น generative
AI
ธุรกิจมากกว่าสองในสาม
(69%) ของผู้ตอบแบบสำรวจทั้งหมด มีการใช้คลาวด์มาแล้วอย่างน้อยที่สุดสามปี
และในกลุ่มผู้เริ่มใช้คลาวด์เป็นกลุ่มแรก ๆ คือ เขตบริหารพิเศษฮ่องกง ญี่ปุ่น
และสิงค์โปร์นั้น มีเพียงหนึ่งในห้า
(20%)เท่านั้นที่ใช้บริการคลาวด์มาน้อยกว่าสามปี ผลสำรวจยังพบว่า
อุตสาหกรรมอินเทอร์เน็ตและเทคโนโลยี,ภาคการผลิต
และ บริการทางการเงิน เป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่เชี่ยวชาญในการใช้คลาวด์มากที่สุด
โยกย้ายไปคลาวด์เต็มรูปแบบปี
67
ผลสำรวจ
เผยว่า 84%
ขององค์กรที่ตอบแบบสำรวจวางแผนที่จะย้ายไปใช้คลาวด์อย่างเต็มรูปแบบในอีกสองปีข้างหน้า
ส่วนหนึ่งเพื่อตอบความต้องการใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างการแพร่ระบาด
โดยมีผู้ตอบแบบสอบถามมากกว่าหนึ่งในสาม (36%) คาดว่า
จะย้ายไปใช้คลาวด์อย่างเต็มรูปแบบในอีกหกเดือนข้างหน้า
บรรดาธุรกิจที่ทำการสำรวจพบว่า
โควิด-19 กระทบต่อการเปลี่ยนแปลงการใช้ไอทีอย่างมีนัยสำคัญ โดย 54% รายงานว่า
มีการใช้ซอฟต์แวร์บนคลาวด์เพิ่มขึ้น และ 41%
รายงานว่าองค์กรของตนกำลังเร่งย้ายไปใช้คลาวด์
จากการสำรวจพบว่า
ไพรเวทคลาวด์ เป็นกลยุทธ์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในเอเชีย รองลงมาคือ พับลิคคลาวด์
ปัจจัยหลักที่ทำให้ธุรกิจต่าง ๆ เลือกใช้พับลิคคลาวด์ คือคุณสมบัติที่โดดเด่น
ด้านความปลอดภัย ความเชื่อถือในบริการด้านการสนับสนุนช่วยเหลือที่อยู่ภายในระเทศ
และราคาที่สมเหตุสมผล โดย 38%
ของธุรกิจที่ตอบแบบสำรวจคาดว่าจะเพิ่มการลงทุนมากกว่าหนึ่งในห้าในปีหน้า
ผลสำรวจจากผู้ตอบแบบสำรวจที่อยู่ในตลาดเอเชีย
พบว่า เกาหลีใต้ มีการใช้พับลิคคลาวด์สูงสุด กลุ่มที่มีการใช้พับลิคคลาวด์ติดอันดับต้นๆ คือ ธุรกิจเกม ภาครัฐ ค้าปลีก
รวมถึงอินเทอร์เน็ตและเทคโนโลยี ขณะเดียวกัน การใช้ไฮบริดคลาวด์ก็กำลังพุ่งสูงขึ้น
“เซลินา”
กล่าวว่า “กลยุทธ์คลาวด์หลากประเภทที่ใช้ในเอเชีย
บ่งบอกว่าธุรกิจจำนวนมากกำลังมองหาโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ยืดหยุ่น ปลอดภัย
และคล่องตัว เพื่อให้ธุรกิจดำเนินงานในรูปแบบดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในฐานะผู้ให้บริการคลาวด์ชั้นนำ อาลีบาบา คลาวด์ ยังคงนำเสนอบริการด้านไฮบริดใหม่
ๆ ที่มีความปลอดภัย เพื่อตอบสนองความต้องการด้านนี้อย่างต่อเนื่อง”
ที่มา :
กรุงเทพธุรกิจ
วันที่ 13
มีนาคม 2566