Smarter Human x Smarter Tech: เปลี่ยนแรงงานสู่การผลิตดิจิทัลโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังด้วยโซลูชัน AI อัจฉริยะจาก SOLOMON


 

การแข่งขันในภาคการผลิตปัจจุบันนั้นมีความเข้มข้นเป็นอย่างมาก และธุรกิจเองต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายหลากหลายประการ หนึ่งในความท้าทายที่ทั่วโลกต้องเผชิญหน้า คือ คุณภาพและปริมาณของแรงงานซึ่งได้รับผลกระทบจากการขาดแคลนทักษะและประสบการณ์ ยิ่งไปกว่านั้นความไม่แน่นอนจากสงครามการค้ายิ่งซ้ำเติมความท้าทายเดิมที่มี ทำให้การเอาชนะความท้าทายเหล่านี้จำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นระบบอัตโนมัติหรือเทคโนโลยีดิจิทัล อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ได้นำมาซึ่งคำถามสำคัญว่าแรงงานจะอยู่รอดได้อย่างไรในสภาพแวดล้อมของธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วเหล่านี้

เพื่อเอาชนะความท้าทายด้านแรงงานในภาคการผลิต SOLOMON Technology ซึ่งเป็นบริษัทที่ได้รับรางวัล Taiwan Excellence ได้พัฒนาโซลูชันดิจิทัลที่ล้าสมัยขึ้นมาเพื่อยกระดับทั้งทักษะและความปลอดภัยของแรงงาน โดยนวัตกรรมที่เกิดขึ้นมานั้นมีศักยภาพในการผลักดันให้ธุรกิจก้าวไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็วและมั่นคง ด้วยการเพิ่มผลิตภาพและความโปร่งใสในขณะที่ยังเป็นการรับประกันด้วยว่าจะไม่มีแงงานคนใด ‘ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง’

‘แรงงาน’ หนึ่งในความท้าทายหลักที่ต้องเปลี่ยนให้เป็นจุดแข็งในการแข่งขัน

 ความท้าทายในธุรกิจการผลิตยุคปัจจุบันนั้นมีความแตกต่างจาก 10 ปีก่อนเป็นอย่างมาก ทั้งเรื่องสงครามการค้า การขาดแคลนทรัพยากร ปัญหาโรคระบาด ประเด็นเรื่องสิ่งแวดล้อม ตลอดจนปัญหาการขาดแคลนแรงงานที่ไม่ว่าประเทศใดก็สามารถพบเจอได้ ภายใต้ความไม่แน่นอนต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น เทคโนโลยีกลายเป็นส่วนสำคัญในการเข้ามาแก้ไขปัญหาได้อย่างครบถ้วนและมีประสิทธิภาพ เป็นผลจากความโปร่งใสและการตอบสนองต่อสถานการณ์แบบ Real-Time ทำให้ลดความสูญเปล่าและยกระดับผลลัพธ์การทำงานที่เกี่ยวข้องได้อย่างชัดเจน

แม้ว่าการใช้เทคโนโลยีจะเป็นส่วนสำคัญอย่างมากในการแข่งขัน แต่ก็ไม่ใช่ทุกโรงงานที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงโรงงานตัวเองหรือใช้งานเทคโนโลยีดิจิทัลได้เสมอไป ปัญหาที่เกิดขึ้นอาจเกิดจากการขาดแคลนเงินทุน ขาดองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้อง หรือในประเด็นที่สำคัญที่สุด คือ ‘แรงงาน’

Michael Lee, Product Director ด้านธุรกิจเทคโนโลยี Vision ของ SOLOMON Technology ได้มองเห็นช่องว่างของศักยภาพแรงงานที่สามารถถูกเติมเต็มได้ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ ทำให้แรงงานยังสามารถแข่งขันได้ในยุคการผลิตดิจิทัลที่ต้องการความชัดเจนในทุกมิติ “เมื่อก่อนเราผลักดันการใช้หุ่นยนต์ระบบอัตโนมัติต่าง ๆ แน่นอนว่ามันก็สามารถทำงานได้ดีแต่ก็ยังมีบางส่วนที่ยังไม่ถูกเติมเต็ม ยกตัวอย่างเช่น ตอนเกิด COVID-19 ที่ระบบอัตโนมัติกลายเป็นสิ่งที่โรงงานต่าง ๆ เร่งใช้งาน แต่เรากลับพบว่าลูกค้าบางรายที่ซื้อไปอาจเจอความลำบากในการติดตั้งบางประการ อาจขาดคนในการทำงาน และเราก็ไม่สามารถเข้าไปที่หน้างานได้ ทำให้เกิดความล่าช้าขึ้น แม้ในตอนนี้สถานการณ์จะดีขึ้นมากแล้ว แต่เรายังคงกลับไปคิดถึงเหตุการณ์นั้น แล้วก็ถามตัวเองว่าทำไมถึงต้องการหุ่นยนต์มาทดแทนคนกันล่ะ?” นี่คือคำถามสำคัญที่ทำให้ คุณ Michael ได้กลับมาทบทวนองค์ประกอบต่าง ๆ ในการผลิตยุคดิจิทัลอีกครั้ง

“เราเลยเริ่มกลับมาคิดใหม่ตั้งแต่ต้น พบว่าเจ้าของโรงงานอาจคิดว่าคนไม่สามารถทำงานได้ 24 ชั่วโมง พวกเขาเหนื่อยได้ พวกเขาทำงานพลาดได้ ประเด็นใหญ่ คือ โรงงานไม่อาจมองเห็นการทำงานของลูกจ้างแต่ละคนได้ตลอด หากมีอะไรเกิดขึ้นแล้วเจ้าของไม่รู้ ลูกจ้างอาจปกปิดหรือเพิกเฉย การนำ AI มาใส่ในแว่นอัจฉริยะน่าจะเป็นทางออกให้กับเรื่องนี้ได้อย่างตรงประเด็น เมื่อผู้คนจะต้องเรียนรู้สิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อนอยู่ตลอดเวลา แว่นของเราจะช่วยในการเรียนรู้และการทำงาน การสวมใส่แว่นของเราจะช่วยในการทำงานได้อย่างหลากหลายด้วย AI ที่สนับสนุนการทำงานอย่างใกล้ชิด ในขณะเดียวกันนายจ้างก็สามารถตรวจสอบและประเมินผลการทำงานของลูกจ้างผ่านแว่นได้ด้วยเช่นกัน” คุณ Michael เล่าถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ที่ให้ความสำคัญกับลูกจ้าง ทำให้เกิดการพัฒนาโซลูชันที่ชื่อว่า META-aivi ขึ้นมาในฐานะเทคโนโลยีที่ใช้งานได้ง่าย ไม่จำเป็นต้องมีทักษะเฉพาะทาง แต่สามารถทำให้แรงงานเติบโตและพัฒนาได้อย่างปลอดภัยในสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

SOLOMON Technology ติดปีกแรงงานด้วย AI ที่ใคร ๆ ก็ใช้ได้

SOLOMON Technology ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการผลิตอัจฉริยะจากไต้หวันที่มีประสบการณ์มายาวนานกว่า 50 ปี มีทีมงานมากกว่า 1,000 คนทั่วโลก เฉพาะในส่วนของ AI มีทีมงานกว่า 130 คนที่ร่วมกันพัฒนาเทคโนโลยีกลุ่ม Machine Vision อัจฉริยะ ซึ่งหลายคนอาจรู้จัก AccuPick โซลูชันกล้องอัจฉริยะสำหรับงาน Pick and Place ที่เคยเปิดตัวในงาน Manufacturing Expo 2022 มาแล้ว ภายใต้มุมมองที่เปลี่ยนไป SOLOMON Technology จึงได้พัฒนา META-aivi ขึ้นมาเพื่อเป็นสะพานเชื่อมต่อแรงงานกับการแข่งขันในการผลิตยุคใหม่ที่ส่งเสริมทั้งความปลอดภัยและเพิ่มศักยภาพที่สามารถวัดผลได้อย่างชัดเจน

META-aivi โซลูชันแว่นอัจฉริยะยกระดับแรงงาน

META-aivi โซลูชัน AI แบบสวมใส่จาก SOLOMON Technology เป็นแว่น AR (Augmented Reality) ที่ถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพภายใต้สภาพแวดล้อมการทำงานจริงของโรงงานอุตสาหกรรม ด้วยการออกแบบที่ผู้ใช้งานยังคงมองเห็นและตอบสนองกับสภาพแวดล้อมโดยรอบได้อย่างปลอดภัยแตกต่างจากแว่น AR/VR แบบสวมหัวเต็มรูปแบบ การสั่งงานสามารถใช้งานได้อย่างสะดวกด้วยระบบเสียงที่รองรับคำสั่งมากถึง 12 ภาษารวมถึงภาษาไทยด้วย ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้การวาดมือเพื่อออกคำสั่งซึ่งอาจไม่เหมาะกับการทำงานภายในสภาพแวดล้อมโรงงานสักเท่าไรนัก จุดเด่นของการใช้งานอยู่ที่ AI ที่เชื่อมต่อผ่านเครือข่ายความเร็วสูงได้อย่างหลากหลาย ทั้ง 4G LTE, 5G และ WiFi6 ทำให้สามารถสนับสนุนการทำงานผ่านฐานข้อมูลของ SOLOMON Technology เพื่อรับมือกับงานที่มีความซับซ้อนได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ สามารถปรับแต่งรูปแบบการทำงานให้เหมาะกับความต้องการของโรงงานได้ เช่น ทำการเชื่อมต่อเพื่อสำรองข้อมูลเมื่อออกจากพื้นที่ที่สัญญาณถูกปิดกั้น หรือสามารถทำงานร่วมกับระบบกล้องอื่น ๆ ในพื้นที่ เช่น กล้องรักษาความปลอดภัย (IP Cam) เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด