รัฐบาลเกาหลีดันเทคโนโลยีไฮเทค
เผยซัมซุงลงทุน 2.3 แสนล้านเหรีนญ สร้าง Mega cluster ฐานผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก คาดแล้วเสร็จปี 2042
ซัมซุง
(Samsung
Electronics) ธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์
และเทคโนโลยีรายใหญ่จากเกาหลีใต้ มีกำไรลดลงในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาจากเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอ
ผลกระทบจากสงครามของรัสเซีย-ยูเครน
และอัตราเงินเฟ้อที่ทำให้ความต้องการผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ของผู้บริโภคลดลง
อย่างไรก็ตาม
ซัมซุงยังคงเป็นหนึ่งในบริษัทแถวหน้าของโลก ซึ่งเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2023
หลายสื่อระบุแผนลงทุน 300 ล้านล้านวอน (2.3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ)
ของซัมซุงที่จะเกิดขึ้นในช่วงเวลา 20 ปีข้างหน้านี้ เพื่อสร้าง “Mega
cluster” ฐานการผลิตชิปที่รัฐบาลเกาหลีใต้เรียกว่าเป็นฐานการผลิตที่ใหญ่ที่สุดในโลก
โดยคาดการณ์ว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จภายในปี 2042
รัฐบาลเกาหลีใต้เป็นผู้เผยแผนลงทุนนี้ของซัมซุง
ในฐานะส่วนหนึ่งของแผนการลงทุนภาคเอกชนมูลค่า 550 ล้านล้านวอน
ซึ่งรัฐบาลเกาหลีใต้มีเป้าหมายที่จะขยายการลดหย่อนภาษี
สนับสนุนการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านโนโลยีไฮเทค ซึ่งรวมถึงชิป จอภาพ
และแบตเตอรี่
ในเดือนมกราคม
2023
รัฐบาลได้เสนอให้เพิ่มอัตราการลดหย่อนภาษีสำหรับการลงทุนสิ่งอำนวยความสะดวกด้านชิปและเทคโนโลยีเชิงกลยุทธ์อื่น
ๆ ขององค์กรขนาดใหญ่จาก 8% เป็น 15%
รอยเตอร์อ้างอิงคำกล่าวนายยุน
ซ็อก-ย็อล ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2023 ว่า
สนามรบทางเศรษฐกิจซึ่งเริ่มต้นด้วยชิปกำลังขยายตัว
นานาประเทศอยู่ระหว่างการให้เงินอุดหนุนและการสนับสนุนด้านภาษี
และเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องสนับสนุนการลงทุนภาคเอกชนทั้งในด้านสถานที่
การวิจัยและพัฒนา กำลังคน และด้านภาษี
ด้าน
SCMP
รายงานว่า ประธานาธิบดียุน ซ็อก-ย็อล ได้ยกให้อุตสาหกรรมเทคโนโลยีเป็นกลไกขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ
และมีผลต่อชีวิตความเป็นอยู่และการสร้างตำแหน่งงานให้กับผู้คนภายในการประชุมผู้กำหนดนโยบายเศรษฐกิจภายในวันเดียวกัน
กระทรวงการค้า
อุตสาหกรรม และพลังงานของเกาหลีใต้เผยว่า Mega cluster ฐานการผลิตแห่งใหม่ของซัมซุงจะตั้งอยู่ใกล้กรุงโซล ประกอบด้วย 5 โรงงาน
และมีเป้าหมายดึงดูดบริษัทและองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยและพัฒนาวัสดุ
ชิ้นส่วน เครื่องจักรกล
และเครื่องมือที่เกี่ยวข้องกับการผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์มากถึง 150 ราย
ภายในวันเดียวกัน
รัฐบาลเกาหลีใต้ยังประกาศลงทุนมูลค่า 25 ล้านล้านวอน (1.9 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ)
ใน 5 ปีข้างหน้า เพื่อวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีสำคัญอื่น ๆ เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (Aritificial
Inteligence: AI) อีกด้วย
ที่มา : Mreport
วันที่ 17 มีนาคม 2566