AI
เว้าอีสานก็มา! มข.พัฒนา AI “เว้าจา”
แปลงข้อความเป็น “เสียงพูดอีสาน” ที่แรกของไทย
นำร่องใช้บนรถขนส่งสาธารณะขอนแก่นซิตี้บัส สร้างอัตลักษณ์ชูความเป็นอีสาน –
อนุรักษ์ภาษาพื้นถิ่นด้วยเทคโนโลยี
การพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ (AI)
ตกอยู่ในความสนใจของทั่วโลก
หลังเกิดเครื่องมือช่วยอำนวยความสะดวกมนุษย์ ทั้งการแปลงเสียงเป็นข้อความ
แปลงข้อความเป็นภาพ หรือแปลงข้อความเป็นเสียง
แต่ส่วนใหญ่ยังคงเป็นการใช้งานและสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษ และภาษาไทย
แนวคิดนี้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของ
ดร.พงษ์ศธร จันทร์ยอย อาจารย์วิทยาลัยการคอมพิวเตอร์ ม.ขอนแก่น พัฒนา “เว้าจา”
เอไอแปลงข้อความเป็นเสียงภาษาอีสาน
เพื่ออนุรักษ์รากทางวัฒนธรรมและภาษาถิ่นให้คงอยู่ด้วยเทคโนโลยี
การวิจัยเริ่มต้นด้วยการเก็บฐานข้อมูลเสียงภาษาอีสานตอนกลางจากเจ้าของภาษา
(Native
Speaker) มากกว่า 5,000 ประโยค ความยาวรวมกว่า 6 ชั่วโมง
ซึ่งใช้เวลาเก็บข้อมูลหลายเดือน เพื่อนำมาเข้าสู่การแทนเสียงด้วยแบบจำลองทางสถิติ
ให้สามารถสังเคราะห์เสียงได้เป็นธรรมชาติ เกิดเป็น AI แปลงเสียงเวอร์ชันแรก
ก่อนจะพัฒนามาเป็น เวอร์ชัน 2 หรือ
เว้าจา ในปัจจุบันที่ใช้เทคโนโลยี Deep Learning ให้เอไอสามารถแปลงข้อความเป็นการออกเสียงภาษาอีสานได้สมบูรณ์ ถูกต้อง
และสมจริงมากขึ้น รวมถึงเพิ่มเติมเสียงผู้หญิงเข้ามาให้ได้เลือกใช้งานกัน
“เว้าจา ใช้งานง่ายๆ เพียงพิมพ์คำอ่านภาษาอีสานลงไป เอไอจะสังเคราะห์เสียงภาษาอีสานทันที สามารถนำไปประยุกต์ใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย ล่าสุด รถขอนแก่นซิตี้บัส ก็นำเว้าจาไปใช้เป็นเสียงประกาศแจ้งจุดจอดตลอดเส้นทาง กลายเป็น Signature ขนส่งสาธารณะของขอนแก่นให้นักท่องเที่ยวหรือผู้ใช้บริการประทับใจ” อ.ดร.พงษ์ศธร กล่าว
ขณะที่ ผศ.ดร.พุธษดี ศิริแสงตระกูล
รองคณบดีฝ่ายวิชาการ วิทยาลัยการคอมพิวเตอร์ ม.ขอนแก่น เสริมว่า
งานวิจัยการประมวลผลภาษาธรรมชาติและเสียงที่วิทยาลัยการคอมพิวเตอร์ ม.ขอนแก่น
พัฒนาขึ้นนั้นไม่ได้มีเฉพาะเว้าจาที่เป็นเอไอสังเคราะห์เสียงเท่านั้น
แต่ยังมีการแปลภาษาด้วยเครื่องมือการสืบค้นสารสนเทศ
การสังเคราะห์เสียง การรู้จำเสียงพูด การรู้จำตัวอักษรโบราณ
รวมไปถึงการนำไปประยุกต์ใช้ในศาสตร์อื่นๆ ได้
“การแปลงข้อความสังเคราะห์ออกมาเป็นเสียงนั้นเป็นประโยชน์มาก
โดยเฉพาะกับกลุ่มผู้บกพร่องทางการมองเห็น จะสามารถรับรู้ข้อมูล
ข่าวสารได้จากการฟัง ไม่เพียงเท่านั้น เว้าจา
ยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้งานได้กับอุตสาหกรรมต่างๆ ทั้งการท่องเที่ยว
งานประชาสัมพันธ์ หรือการแพทย์
เพื่อรักษารากวัฒนธรรมอีสานให้อยู่คู่คนรุ่นหลังต่อไป” ผศ.ดร.พุธษดี กล่าว
สำหรับผู้ที่สนใจนำเว้าจาไปใช้งาน
สามารถติดต่อฝ่ายวิจัยและนวัตกรรม วิทยาลัยการคอมพิวเตอร์ ม.ขอนแก่นได้ ทั้งนี้
ในอนาคตจะมีการพัฒนา “เว้าจา” ให้ครบวงจรมากยิ่งขึ้น ทั้งการพิมพ์คำภาษาไทยให้สามารถออกเสียงเป็นภาษาอีสานได้
หรือแปลงเสียงเป็นข้อความ
รวมถึงการแปลภาษาไทยเป็นอีสาน
หรือแปลภาษาอีสานเป็นไทย และการสร้าง VOICE BOT คล้าย Siri แต่เป็นการสื่อสารภาษาไทยและอีสาน
เพื่อช่วยให้ผู้คนสามารถสื่อสารกันได้อย่างเข้าใจ ก่อนจะพัฒนาไปสู่ภาษาพื้นถิ่นอื่น
ๆ ต่อไป
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ
วันที่ 9 มิถุนายน 2566