บริษัท
Neura
Robotics จากเยอรมนี กำลังดีไซน์หุ่นยนต์ผู้ช่วยงานในบ้าน
รุ่นใหม่ล่าสุด โดยตั้งชื่อรุ่นว่า 4NE-1 โดยบริษัทนี้
ยกให้เจ้าหุ่นยนต์ตัวนี้
เป็นหุ่นยนต์มาสเตอร์พีซของบริษัทที่เป็นสุดยอดผลงานของบริษัทเลย
ทำงานได้บ้านสารพัด
เป็นหุ่นยนต์ผู้ช่วยแสนดี!
หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์
HUMANOID
กำลังจะมีปริมาณเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในอนาคตอย่างแน่นอน
เพราะเทคโนโลยีของโลกหุ่นยนต์เดินหน้ารุดไปอย่างไม่เคยหยุด
โดย
ในอดีต แนวคิดของ หุ่นยนต์ ฮิวแมนนอยด์ Humanoid มีจุดเริ่มต้นมาหลายร้อยปีแล้ว
นับตั้งแต่ทศวรรษที่ 1400 เลโอนาร์โด ดาวินชี
ได้ออกแบบหุ่นยนต์กลไกที่ซับซ้อนซึ่งสวมชุดเกราะ สามารถนั่ง ยืน และขยับแขนได้
ควบคุมโดยระบบรอกและสายเคเบิล
จนกระทั่งตอนนี้
ปี 2024 บริษัท Neura Robotics จากเยอรมนี
กำลังดีไซน์หุ่นยนต์ผู้ช่วยงานในบ้าน รุ่นใหม่ล่าสุด โดยตั้งชื่อรุ่นว่า '4NE-1' มีส่วนสูง 170 เซนติเมตร และ น้ำหนัก 60 กิโลกรัม โดยบริษัทนี้ ยกให้เจ้าหุ่นยนต์ตัวนี้
เป็นหุ่นยนต์มาสเตอร์พีซของบริษัทที่เป็นสุดยอดผลงานของบริษัทเลย
ความเห็นจาก
เดวิด โรเจอร์ ซีอีโอและผู้ก่อตั้งบริษัท Neura
Robotics ให้ความเห็นว่า
ในอนาคต หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ HUMANOID จะตอบโจทย์การใช้ชีวิตในอนาคต
เจ้าหุ่นยนต์พวกนี้ จะทำงานบ้าน ในสิ่งที่ มนุษย์ หรือเหล่าบรรดาแม่บ้านทั้งหลาย
ไม่อยากทำ และหุ่นยนต์พวกนี้จะเปลี่ยนแปลงโลกในอนาคตไปอีกมาก ไม่แน่ ภายในอีก 5-10
ปี เจ้าหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ อาจจะเดินเกลื่อนถนนก็ได้
HUMANOID
รุ่นใหม่จาก Neura ทำงานได้บ้านสารพัด
เป็นผู้ช่วยแสนดี Credit REUTERS
ณ
เวลานี้ หุ่นยนต์ 4NE-1
กำลังอยู่ในช่วงขั้นตอนของการพัฒนา แต่ยังไม่มีการเปิดเผยราคาในเชิงพานิชย์
สำหรับ
แวดวงเทคโนโลยีหุ่นยนต์ นั้น ถือว่า
หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ กำลังเป็นเทคโนโลยีที่น่าจับตามองสำหรับอนาคตอันใกล้
โดยคาดการณ์ว่าตลาดจะเติบโตสูงถึง
38 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2035 ซึ่งแสดงถึงศักยภาพอันมหาศาลของอุตสาหกรรมนี้
แต่การใช้งานในปัจจุบันยังค่อนข้างจำกัด
เนื่องจากต้นทุนในการพัฒนาหุ่นยนต์เหล่านี้ยังสูงมาก
อย่างไรก็ตาม
ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว คาดว่าราคาจะลดลงเรื่อย ๆ
จากเดิมที่อยู่ในช่วง 50,000-250,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัวในปีก่อน
ปัจจุบันลดลงเหลือราว 30,000-150,000 ดอลลาร์แล้ว
หากแนวโน้มเป็นเช่นนี้ต่อเนื่อง
ในอนาคต หุ่นยนต์หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ น่าจะเข้าถึงได้ง่ายขึ้นสำหรับธุรกิจต่างๆ
ทั้งในแง่ของราคาและประสิทธิภาพการทำงานที่ดีขึ้น
ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของตลาดได้อย่างมาก
ที่มา : Springnews
วันที่ 10 พฤษภาคม 2567