‘อัลฟ่าเซค’ เพิ่มเกมรุกบริการไซเบอร์ซิเคียวริตี้ยุคเอไอ
“อัลฟ่าเซค”
ผนึกกำลัง “ทีคิวอาร์” รุกหนักตลาดไซเบอร์ซิเคียวริตี้
มุ่งช่วยลูกค้าปกป้องข้อมูลองค์กร ตอบโจทย์ยุคจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน
และการผสมผสานใช้งานเทคโนโลยีเอไอ
นายนิพนธ์
นาชิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อัลฟ่าเซค จำกัด ผู้ให้บริการที่ปรึกษา
ตรวจสอบมาตรฐานด้านความมั่นคงปลอดภัยบนไซเบอร์ กล่าวว่า
ทิศทางธุรกิจของอัลฟ่าเซคปี 2567
นี้มุ่งพัฒนาโซลูชั่นและบริการด้านไซเบอร์ซิเคียวริตี้รวมถึงดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันที่ครอบคลุม
เป็นไปตามมาตรฐานสากล
ทั้งนี้เพื่อ
ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในยุคดิจิทัล ซึ่งข้อมูลกลายเป็นสินทรัพย์ที่สำคัญ
และการรักษาความปลอดภัยข้อมูลตามมาตรฐานเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง
สำหรับ
โซลูชั่นและบริการที่นำเสนอครอบคลุมทั้ง บริการ Cybersecurity :
ปกป้องระบบเครือข่าย ข้อมูล และระบบสารสนเทศขององค์กร, บริการ Digital Transformation : ยกระดับธุรกิจด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล
เช่น Cloud Computing, AI, Big Data
นอกจากนี้
บริการ Managed
Security Services : ดูแลความปลอดภัยทางไซเบอร์แบบครบวงจร และ
บริการ Consulting Services : บริการให้คำปรึกษาและแนะนำด้าน
Cybersecurity และ Digital Transformation
โดยลูกค้าสามารถมั่นใจได้ว่าจะได้รับบริการที่มีมาตรฐานสากล
จากที่บริษัทเป็นบริษัทร่วมทุนกับ ทีคิวอาร์ จำกัด (มหาชน)
ขณะเดียวกันได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO/IEC 27001:2022
หรือมาตรฐานด้านการจัดการความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ
การรับรองนี้ยืนยันถึงความมุ่งมั่นในการจัดการและปกป้องข้อมูลสำคัญของลูกค้าด้วยมาตรฐานสากลที่เข้มงวดที่สุด
การรับรอง ISO/IEC 27001:2022
ไม่เพียงแต่เป็นเครื่องหมายของความเป็นเลิศในการจัดการความปลอดภัยข้อมูลเท่านั้น
แต่ยังเป็นหลักประกันที่ชัดเจนว่า อัลฟ่าเซค ให้ความสำคัญกับการปกป้องข้อมูลลูกค้า
มีการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีล่าสุดและนโยบายความปลอดภัยที่เข้มงวด
กระทั่งมั่นใจว่าสามารถป้องกันข้อมูลจากการรั่วไหลและการโจมตีจากภายนอกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
พร้อมกันนี้
ตอบโจทย์การใช้เทคโนโลยียุคใหม่ที่ปัจจุบันธุรกิจให้ความสำคัญกับการนำเอไอมาประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน
ปัจจุบัน
องค์กรชั้นนำในยุโรปต่างให้ความสำคัญกับการใช้เอไอในการยกระดับการให้บริการลูกค้า
พัฒนาสินค้าและบริการใหม่ๆ เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน
และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า
รวมไปถึงการนำเอไอมาวิเคราะห์ข้อมูลการขับขี่
พัฒนาระบบความปลอดภัยและระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ ทั้งมีการใช้เอไอพัฒนาโซลูชั่น ERP
อัจฉริยะเพื่อช่วยธุรกิจจัดการข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก ฯลฯ
วันที่ 19 มีนาคม 2567
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ
