LINE ชู กลยุทธ์ ‘4P’ กรุยทางความสำเร็จ เอสเอ็มอียุคใหม่
LINE
เปิดเส้นทางความสำเร็จสำหรับเอสเอ็มอียุคใหม่
ชี้ปัจจัยไม่ใช่เพียงการสร้างยอดขาย
แต่ต้องยกระดับเป้าหมายสู่การสร้างธุรกิจให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน กุญแจสำคัญคือ
การสร้างประสบการณ์ที่ดีในการดึงดูดลูกค้าใหม่ พร้อมมัดใจลูกค้าประจำ
สกุลรัตน์
ตันยงศิริ ผู้อำนวยการธุรกิจเอสเอ็มอี LINE ประเทศไทย
กล่าวว่า ปัจจุบัน
ธุรกิจได้ยกระดับเข้าสู่ยุคใหม่แห่งการมอบประสบการณ์ให้กับลูกค้า
โดยกิจการต่างๆ
ไม่ได้แข่งขันกันด้วยปัจจัยการตลาด สินค้า ราคา โปรโมชั่น ช่องทางการขาย
เพียงอย่างหนึ่งอย่างใดอีกต่อไป
แต่เป็นการสร้างประสบการณ์การซื้อสินค้าของลูกค้าให้โดนใจ
เพราะลูกค้าในยุคใหม่
จะยอมจ่ายเงินเพื่อซื้อ “ประสบการณ์ที่ดี”
ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยจึงต้องทำความเข้าใจ ปรับตัว และพัฒนาตามให้ทัน
·
หนุนธุรกิจโตบน
‘ความยั่งยืน’
LINE
ตระหนักถึงพฤติกรรมและเทรนด์ธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป
จึงมีแผนในการผลักดันและสนับสนุนเอสเอ็มอีไทยให้สามารถยกระดับการทำธุรกิจสู่เป้าหมายแห่งความยั่งยืน
ภายใต้กลยุทธ์
“4P”
ประกอบด้วย PLATFORM แพลตฟอร์มทรงพลัง,
PARTNER พาร์ทเนอร์ที่หลากหลาย PROGRAM โปรแกรมยกระดับความรู้
ความสามารถ SME ทั่วไทย และ PRIVILEGE สิทธิประโยชน์สุดพิเศษเพิ่มความรู้
กำไร และความสุข
ปัจจุบัน
มีเอสเอ็มอีผู้ใช้งาน LINE OA รวมถึงกว่า 6
ล้านบัญชี เนื่องจากมีฟีเจอร์ยอดนิยมที่รองรับทุกกลุ่มธุรกิจคือ ฟีเจอร์บรอดแคสต์
ที่มีให้เลือกถึง 10 รูปแบบ ทั้งยังพบว่า
การใช้งานข้อความได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในทุกปีเฉลี่ยถึงปีละ 91% ตั้งแต่ปี 2564
จนถึงปัจจุบัน โดยมีริชเมสเสจ ข้อความ และริชวิดีโอเมสเสจ เป็นรูปแบบยอดนิยม 3
อันดับแรก
ส่วนการใช้งานของผู้บริโภค
LINE
Commerce Solution ก็สามารถตอบโจทย์ทุกกลุ่มผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี
โดยมีฟีเจอร์ที่ครองใจอย่าง แชต 1:1
ซึ่งปีที่ผ่านมาลูกค้าส่งแชตมาหาร้านค้าเพิ่มสูงขึ้นถึง 11.8 เท่าเมื่อเทียบกับปี
2562 และจำนวนรวมของข้อความที่ร้านค้าได้รับผ่านแชตในปี 2566 สูงถึง 7,288
ล้านข้อความ
ขณะที่
การเชื่อมต่อ LINE OA กับ LINE SHOPPING ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคชาวไทย
เห็นได้จากที่อัตราการปิดการขายสำเร็จของร้านค้าสูงถึง 97%
นอกจากนี้
เทคโนโลยีเสริมอื่นๆ อาทิ แชตบอท ที่สร้างผ่านเทคโนโลยี LINE
Messaging API ยังช่วยสร้างประสบการณ์ในการตอบแชตที่รวดเร็ว
ด้วยอัตราการเติบโตของการใช้งานจากปีที่แล้ว 20% ด้านการใช้งาน LIFF เชื่อมต่อกับ LINE OA มีการเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 100%
ในช่วงปีที่ผ่านมา
·
สร้างประสบการณ์ Personalized
ไลน์เผยว่า
การให้บริการจะไม่มีการไม่ปิดกั้น ร้านค้าสามารถเชื่อมต่อ LINE
OA ไปสู่ช่องทางหรือแพลตฟอร์มอื่นๆ ได้อย่างอิสระ ตัวอย่างเช่น
การสร้างปุ่มในฟีเจอร์ริชเมนู ใน LINE OA ลิงก์ไปยังโซเชียลมีเดีย
ด้วยอัตราการเชื่อมต่อเพิ่มมากขึ้นจากปีที่แล้ว 27%
ลิงก์ไปยังแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ 22% รวมถึงลิงก์ไปยัง LINE SHOPPING 17%
กล่าวได้ว่า
เป็นการสร้างประสบการณ์ที่ Personalized ให้ลูกค้าสามารถเลือกช่องทางการซื้อได้ตามต้องการ
อย่างการบรอดแคสต์ข้อความ ในช่วงเวลาสำคัญอย่าง Double Day โดยลิงก์ไปยังแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ
เพื่อกระตุ้นยอดขาย เห็นได้จากจำนวนการบรอดแคสต์ในช่วงเวลาดังกล่าวเพิ่มมากขึ้นถึง
473% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาปกติ
นอกจากนี้
มีที่เก็บฐานข้อมูลลูกค้า โดย LINE OA และเครื่องมือเสริมอื่นๆ
ช่วยให้ร้านค้าสามารถเก็บฐานข้อมูลลูกค้า เพื่อศึกษา
พัฒนาเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดต่อได้ อย่างฟีเจอร์บัตรสะสมแต้มบน LINE OA เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่ช่วยเอสเอ็มอีดึงดูดลูกค้าใหม่
และมัดใจฐานลูกค้าประจำ
เห็นได้จากความนิยมในการใช้งานที่เพิ่มขึ้น
ทั้งในส่วนร้านค้าที่มีอัตราการใช้งานเพิ่มขึ้นถึง 23% และในส่วนลูกค้า
ด้วยอัตราการใช้งานเพิ่มขึ้นถึง 38% เช่นกัน
“เรากำลังก้าวเข้าสู่การทำธุรกิจยุคใหม่ที่การสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้ากลายมาเป็นกุญแจสำคัญ
ดังนั้นไลน์ยังคงมุ่งพัฒนาเครื่องมือ รวมถึงเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ทุกความหลากหลาย
พร้อมยกระดับการทำธุรกิจเอสเอ็มอีไทย ในการสร้างประสบการณ์ที่ดี ครองใจผู้บริโภค ปูทางสู่ธุรกิจที่เติบโตได้แบบยั่งยืน”
ที่มา
:
กรุงเทพธุรกิจ
วันที่
20 มีนาคม 2567
