กลายเป็นขาลงของ
AI
หรือเพราะนักลงทุนเบื่อชายคนนี้ ? เมื่อ
บริษัท xAI ของ อีลอน มัสก์
เจอข่าวระดมทุนได้ไม่ถึงยอดที่หวัง
หลังจาก
อีลอน มัสก์ ประกาศเปิดตัว บริษัท xAI ไปเมื่อเดือนกรกฎาคม
ปีที่แล้ว ที่มุ่งเป้าพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ (AI) ให้สามารถตอบโต้และฉลาดเหมือน
ChatGPT กำลังเจอปัญหาเรื่องการระดมทุน
เมื่อมีกระแสข่าวว่าการระดมทุนของบริษัทแห่งนี้ระดมทุนได้เพียง 500 ล้านเหรียญ จากที่ตั้งเป้าไว้ที่ 1,000
ล้านเหรียญสหรัฐฯ
เมื่อวันที่
19
ม.ค. ที่ผ่านมา อีลอน มัสก์ ได้ออกมาตอบโต้ว่ากระแสดังกล่าวว่า
ไม่เป็นความจริง โดยนับว่าเป็น "ความเข้าใจที่ไม่ตรงกับความจริง"
ผ่านการคอมเมนต์บทความของสำนักข่าวบลูมเบิร์กที่โพสต์บนแพลตฟอร์ม X
(Twitter)
อย่างไรก็ตามมีการคาดการณ์ว่าในอีกไม่กี่สัปดาห์
เราจะได้เห็นว่า บริษัท xAI ที่จะมาพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์
จะระดมทุนที่ตั้งไว้ 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ได้หรือไม่
ตามรายงานของสำนักข่าวบลูมเบิร์ก
หากย้อนกลับไปในวันที่
อีลอน ประกาศเปิดตัวบริษัท AI ของเขานั้น
เป็นช่วงที่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ กำลังเป็นที่นิยมอย่างมากและ AI ของบริษัทต่าง ๆ
ถูกตั้งคำถามเรื่องมาตรการความปลอดภัยและลิขสิทธิ์ของข้อมูลที่ AI นำไปเรียนรู้
ขาลงของ
AI
?
แต่หากการระดมทุนครั้งนี้ไม่สำเร็จอาจกลายเป็นช่วงขาลงของ
AI
หลังจากปีที่แล้วได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะการพัฒนา AI ต้องใช้เวลาและใช้เงินมหาศาล
ดังนั้นการที่นักลงทุนลงเงินไปแล้วยังไม่เห็นผลตอบแทนหรือผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ
ที่จะออกมาใช้งานก็อาจส่งผลให้เกิดการขาดความเชื่อมันและเทขายหุ่นของบริษัทอื่น ๆ
ตามมา
ก่อนหน้านี้ในงาน
CES
2024 หรือ Consumer Electronics Show 2024
มหกรรมเทคโนโลยีสำหรับผู้บริโภคที่ใหญ่ที่สุดในโลก เมื่อวันที่ 9 ม.ค. 2567 – 12 ม.ค. 2567
กลายเป็นงานที่ AI ปัญญาประดิษฐ์ ถูกพูดถึงน้อยมาก
ทั้งที่ปีที่ผ่านมา Generative AI ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
งาน
CES
2024 สำนักข่าวรอยเตอร์ใช้คำว่า
"การเปิดตัวที่ไม่ค่อยมีอะไรว้าวมากนัก"
อาจเป็นการเริ่มปีที่ไม่ค่อยมงคลนัก เพราะนักลงทุนอาจตีความได้ว่า
เงินทุนมหาศาลที่พวกเขาลงทุนใน AI กับบริษัทต่าง ๆ
ไม่สัมฤทธิ์ผล (แม้ว่าการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์จริง ๆ ต้องใช้เวลานานก็ตาม
และไม่รับประกันผลกำไรอีกด้วย)
ในวันแรกของงาน
CES
2024 บริษัทสตาร์ทอัป อุปกรณ์ AI อย่าง Humane
ได้ประกาศเลิกจ้างพนักงาน 10 คน
ก่อนวันเปิดตัวในเดือนมีนาคมของอุปกรณ์ Humane AI pin เข็มกลัดปัญญาประดิษฐ์แสนรู้
แค่ขยับมือก็ทำได้เหมือนมือถือ มูลค่า 699 ดอลลาร์ หรือราว 26,000 บาท ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อทดแทนสมาร์ทโฟน
โดยอ้างความจำเป็นในการปรับโครงสร้างใหม่
อย่างไรก็ตามเราต้องติดตามกันว่าปีนี้
บริษัทเทคโนโลยีจะปลดคนเพิ่มอีกหรือไม่ ? เพราะนักลงทุนเริ่มรู้สึกว่าเงินที่ลงไปกับ
AI มันเริ่มจมและไม่มีอะไรใหม่ ๆ ออกมา หรือ เราอาจได้เห็น
แกดเจ็ต (Gadget) ใหม่ ๆ ที่ใช้ AI มากขึ้นในอุปกรณ์ก็เป็นได้
แต่จากการวิเคราะห์ของหลายบริษัท มองไปในทิศทางเดียวกันว่า หากองค์กรไหนปรับใช้ AI
ได้อย่างมีประสิทธิภาพก่อน ก็มีสิทธิ์ไปได้เร็วกว่าคนอื่น ๆ
และสร้างรายได้ได้มากกว่าองค์กรที่ไม่ใช้เลย
ที่มา : Springnews
วันที่ 23 มกราคม 2567