แม้การเติบโตของอุตสาหกรรมทั่วโลกจะช่วยผลักดันสังคมและเศรษฐกิจโลกให้ก้าวหน้าไปได้อย่างต่อเนื่อง
แต่ในขณะเดียวกันการเติบโตเหล่านี้ก็ได้ทิ้งร่องรอยผลกระทบเอาไว้ในสิ่งแวดล้อม
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทะเลอันกว้างใหญ่
แต่ด้วยการผสมผสานแนวคิดทางนิเวศวิทยา,
วิศวกรรม และการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดของเทคโนโลยี 3D
Printing นั้นสามารถช่วยให้มนุษย์สามารถลดและแก้ไขผลกระทบที่เกิดจากอุตสาหกรรมทางทะเลลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แก้ปัญหาจากการเติบโตของอุตสาหกรรมด้วย
3D
Printing
หนึ่งในโครงสร้างที่สำคัญที่สุดในทะเลสำหรับการป้องกันแนวชายฝั่งจากการกัดเซาะของคลื่นและกระแสน้ำ
ทั้งยังส่งผลต่อการสร้างความหลากหลายของระบบนิเวศและทำหน้าที่เป็นหลบภัยให้สัตว์ทะเล
ก็ได้แก่ปะการังนั่นเอง
ภายในช่วง
30 ปีที่ผ่านมานั้น
ปะการังกว่าครึ่งหนึ่งของโลกเรากลับถูกทำลายไปด้วยสาเหตุต่าง ๆ
มากมายไม่ว่าจะเป็นการประมง การก่อสร้างหรือการพัฒนาของภาคอุตสาหกรรม
และยังมีการคาดการณ์ว่าภายใน 20 ปีข้างหน้า ปะการังกว่า 70-90% จะหายไปจากท้องทะเล
ปัจจุบันบริษัทหลายแห่งทั่วโลกจึงได้ริเริ่มแนวคิดของการนำเทคโนโลยีอย่าง 3D Printing หรือการพิมพ์ 3 มิติเข้ามาช่วยทดแทนแก้ไขปัญหาการลดลงของจำนวนปะการังเช่น ‘Archireef’ บริษัท Startup จาก Hong Kong ที่พัฒนาปะการังเทียมจากดินเผาที่ผลิตขึ้นด้วยการพิมพ์ 3 มิติ ซึ่งไม่เป็นพิษและสามารถย่อยสลายได้