หลายคนคงจะคุ้นหูกับคำว่า
“Industry
4.0” ที่ปัจจุบันเป็นอีกหนึ่งความท้าทายที่ต้องเผชิญ
สำหรับผู้ผลิตและผู้ประกอบการด้านอุตสาหกรรมที่จะต้องทำความเข้าใจแนวคิด
พิจารณาความเป็นไปได้ที่จะนำเอาเทคโนโลยีดิจิทัล อินเทอร์เน็ต
และการเชื่อมต่ออุปกรณ์ ด้วยโซลูชันที่ทันสมัยมาใช้ในอุตสาหกรรมแทนการทำงานในรูปแบบเดิม
เช่น Artificial Intelligence (AI)
หรือ Machine Learning (ML), Internet of Things (IoT),
Augmented Reality (AR) หรือ Virtual Reality (VR) เพื่อเป็นตัวช่วยในการปรับปรุงกระบวนการผลิตให้สามารถแข่งขันกับตลาดอุตสาหกรรมที่เปลี่ยนไปได้
และเป็นการมุ่งพัฒนาองค์กรให้ก้าวสู่โรงงานอัจฉริยะ (Smart Factory)
- (Artificial
Intelligence (AI) : ปัญญาประดิษฐ์ คือ ชุดของโค้ด, อัลกอลิทึมต่าง ๆ เป็นโปรแกรมที่ถูกเขียนและพัฒนาให้มีความฉลาด สามารถคิด
วิเคราะห์ วางแผนการตัดสินใจได้เสมือนมนุษย์
เป็นเทคโนโลยีที่เข้ามาช่วยในการจัดการข้อมูลจำนวนมาก
- Machine
Learning (ML) : การสอนให้ระบบคอมพิวเตอร์ทำการเรียนรู้ได้ด้วยตนเองโดยการใช้ข้อมูล
เปรียบเสมือนสมองของ AI เรียนรู้จากข้อมูลที่เราส่งไปกระตุ้น
แล้วจดจำเอาไว้เป็นในหน่วยประมวลผลของสมองกล ส่งผลลัพธ์ออกมาเป็นตัวเลขหรือ Code
โดยอาศัยโปรแกรม Algorithm ในการประมวลผล
- Internet
of Things (IoT) : การเชื่อมโยงหรือส่งข้อมูลถึงกันได้ด้วยอินเตอร์เน็ตโดยไม่ต้องป้อนข้อมูล
- Augmented
Reality (AR) : เทคโนโลยีที่นำวัตถุ 3 มิติ
มาจำลองเข้าสู่โลกจริงของเรา มีหลักการทำงานคือการใช้ Sensor ในการตรวจจับภาพ, เสียง, การสัมผัสต่าง
ๆ แล้วสร้างภาพ 3 มิติขึ้นมาผ่านระบบ Software ซึ่งผู้ใช้งานต้องอาศัยการมองผ่านอุปกรณ์ต่าง
ๆ ที่แสดงภาพได้ ไม่ว่าจะเป็น แว่นตา, จอภาพ หรือคอนแทคเลนส์
ที่เป็น Hardware
- Virtual
Reality (VR) : เทคโนโลยีการจำลองโลกเสมือนที่แยกจากความเป็นจริง
โดยผู้ใช้งานสามารถโต้ตอบกับสถานที่ หรือสิ่งแวดล้อมที่จำลองมาได้ผ่านอุปกรณ์เช่น
แป้นพิมพ์, เม้าส์ หรืออุปกรณ์ต่าง ๆ
โจทย์ใหญ่ของอุตสาหกรรมการผลิตนี้ที่ต้องพิจารณา
ก็คือเป็นการเพิ่มการลงทุน ยกระดับองค์กรเพื่อเข้าสู่ “Smart
Manufacturing” ขับเคลื่อนความเปลี่ยนแปลงที่เป็นประโยชน์ต่อองค์กร และปรับกระบวนการทำงานสู่รูปแบบดิจิทัล (Digital
Transformation) เพื่อให้พนักงานทุกคนสามารถเข้าถึงและใช้งานข้อมูลในส่วนที่รับผิดชอบแบบ
Real-Time
โดยคาดการณ์ว่าจะมีความเปลี่ยนแปลงสำคัญเมื่อก้าวสู่อุตสาหกรรม
4.0 ด้วยกัน 5 ประการ ประกอบด้วย
อุตสาหกรรมการผลิตจะปรับตัวเป็น
“โรงงานอัจฉริยะ (Smart Factory)” อย่างเต็มรูปแบบ
องค์กรเริ่มตื่นตัวและตระหนัก
(The
Fear of Missing Out) ถึงการปรับเปลี่ยนสู่ระบบดิจิทัล
เพื่อเพิ่มโอกาสการแข่งขันทางธุรกิจ
Big Data หรือ
ข้อมูลขนาดใหญ่จะกลายเป็นศูนย์กลางของทุกสิ่ง
ช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่อุตสาหกรรมการผลิตที่มีการทำงานแบบโรงงานอัจฉริยะ
ทำให้ข้อมูลจากทุกส่วนงานสามารถนำมาใช้ร่วมกันกับเทคโนโลยีได้
การนำระบบ Automation
และ Machine Vision มาใช้เพื่อช่วยเพิ่มความรวดเร็วในการทำงาน
ส่งเสริมแรงงานมนุษย์ในการขับเคลื่อนธุรกิจทางองค์กร
ปัญหาการขาดแคลนแรงงานในการผลิตจะมีแนวโน้มสูงขึ้น
การนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้จึงสำคัญและเป็นความจำเป็นต่อกระบวนการผลิต
แม้ว่าจะมีเทคโนโลยีที่หลากหลายให้เลือก
แต่ก้าวแรกเป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก
ซึ่งผู้ผลิตจะต้องดำเนินการตรวจสอบวิเคราะห์กิจการ (Due
Diligence) เพื่อให้มองเห็นถึงโอกาสในการปรับปรุงจุดอ่อนทางธุรกิจ และความท้าทายในการดำเนินงาน
ผลสรุปที่ได้จากการวิเคราะห์ผู้ใช้งานจริงรวมไปถึงกลุ่มเป้าหมายที่มีแนวโน้มจะเป็นผู้ใช้งานในอนาคต
(Persona-based) ที่เครือข่ายผู้ใช้ทางธุรกิจทั้งผู้ปฏิบัติงานส่วนหน้า
หัวหน้างาน ผู้จัดการ และผู้บริหารสามารถเข้าถึงได้
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี
4.0
เหล่านี้จะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นและวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกขององค์กร
ส่งผลให้เกิดแผนงานอย่างเป็นระบบพร้อมขั้นตอนและผลลัพธ์
เพื่อยกระดับกระบวนการทำงานไปอีกขั้น
ผสานเทคโนโลยีเข้ากับการดำเนินงานในแต่ละวัน
(Integrating
technology into day-to-day operations)
ในปัจจุบัน
อุตสาหกรรมมีการเปลี่ยนแปลงไปสู่ระบบดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง
แต่ประเด็นสำคัญที่ควรมุ่งเน้น คือ
“เทคโนโลยีสามารถประยุกต์ใช้กับการดำเนินงานในแต่ละวันได้อย่างไร?”
ในการทำงานแบบใหม่ด้วย Digital
strategy คือการทำ Business strategy ที่นำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาประยุกต์ใช้ในองค์กร
รวมเข้ากับกลยุทธ์การปฏิบัติการ (Operation strategy) เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ในการปฏิบัติการ
และพนักงานในสายการผลิตจะต้องเห็นด้วยกับ Digital Solutions นี้
รวมไปถึงการพูดคุยหารือเกี่ยวกับการปรับใช้โซลูชันที่เหมาะสมจะช่วยให้การทำงานประจำวันง่ายขึ้นอย่างมาก
การนำศักยภาพของ Industry
4.0 มาใช้จะเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินงานผลิตในทุกด้าน ซึ่งครอบคลุม
วิศวกรรมกระบวนการผลิต ระบบการผลิต
มาตรฐานคุณภาพของผลิตภัณฑ์ การบำรุงรักษา ความปลอดภัยของพนักงาน คลังสินค้า การบริการหลังการขาย และความยั่งยืน
เทคโนโลยีจะช่วยให้สามารถนำผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาดได้เร็วขึ้น
ในขณะที่การดำเนินงานยังคงมีความปลอดภัย มีประสิทธิภาพมากขึ้น และมีต้นทุนที่ต่ำลง
ในการเริ่มต้นนำเทคโนโลยีเข้ามาปรับใช้กับผู้ปฏิบัติงานสิ่งแรกที่ต้องมุ่งเน้น
คือ ข้อมูลในการดำเนินงานต้องเข้าถึงได้
จึงจะทำให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถนำข้อมูลเชิงลึกมาวิเคราะห์ปัญหาแก้ไข
และปรับปรุงข้อผิดพลาดต่าง ๆ ได้
กุญแจสำคัญ คือ
การทำให้ความรู้และข้อมูลเชิงลึกเหล่านั้นพร้อมสำหรับพนักงานทั่วทั้งองค์กร สามารถเข้าถึงได้แบบ Real-Time
โดยเฉพาะผู้ปฏิบัติงานในส่วนของการผลิต
การพูดคุยทำความเข้าใจกับผู้ที่ปฏิบัติงานจริงเท่านั้น
ถึงจะสามารถสานต่อโซลูชันเทคโนโลยีที่ใช้งานได้จริง
เพื่อแก้ไขปัญหาการทำงานในแต่ละวัน
ด้วยข้อมูลพื้นฐานที่พร้อมใช้งานนี้
ผู้ผลิตจะสามารถสร้างโซลูชันที่ผสานเข้ากับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีได้
ไม่ว่าจะเป็นการประมวลผลและการวิเคราะห์บน Cloud, AI หรือ Machine Learning
มีผู้ผลิตจำนวนมากทั่วโลกกำลังพยายามหาโซลูชัน
Digital
ต่างๆ เพื่อประยุกต์ใช้กับโรงงานผลิตตลอดจนการเปลี่ยนเป็น 'โรงงานอัจฉริยะ (Smart
Factory)' ซึ่งมีการติดตั้งเซ็นเซอร์ขั้นสูง หุ่นยนต์และซอร์ฟแวร์ต่าง
ๆ ที่สามารถรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อความสามารถในการตัดสินใจได้ดีขึ้น
“Digital
Twin” หรือการจำลองสถานการณ์สมมติแบบ What-if (What-if
Analysis) ได้สร้างชื่อเสียงอย่างมากในภาคอุตสาหกรรมและการผลิต สามารถวางแผนปรับกระบวนการให้เหมาะสม
นอกจากนี้ยังสามารถใช้ Digital Twins เพื่อช่วยฝึกผู้ปฏิบัติงานและวิศวกรได้อีกด้วย
ไม่ว่าจะเป็นการโต้ตอบและทำ Scenario Test แบบดิจิทัล
หรือจัดการสภาพแวดล้อมเพื่อวัดผลกระทบ
ทำให้พนักงานสามารถเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วและเข้าถึงโซลูชันมากขึ้น
- Digital
Twin คือ การสร้างแบบจำลองวัตถุขึ้นในโลกดิจิทัล
ทั้งในรูปแบบภาพและข้อมูล จากนั้นในการใช้งานจะดึงข้อมูลไปวิเคราะห์
และสร้างสถานการณ์จำลอง สำหรับธุรกิจ ความสามารถของ Digital Twin จะสามารถช่วยเฝ้าระวังเหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เช่น การประเมินเวลาที่จะซ่อมบำรุง การสร้างสถานการณ์สมมติ
การตรวจสอบการทำงานร่วมกันของเครื่องจักรที่หลากชนิด นอกจากนี้ Digital
Twin อาจสามารถช่วยในการแจ้งเตือน
และเริ่มดำเนินขั้นตอนในการทำงานแบบอัตโนมัติเมื่อสถานะของวัตถุบ่งบอกว่าต้องการ Action
บางอย่างอย่างต่อเนื่อง
ยังมีเครื่องมือต่าง ๆ
มากมายที่เป็นตัวกำหนดรูปแบบการผลิตซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิวัติอุตสาหกรรมในยุค
4.0 นี้
จากที่กล่าวมาข้างต้นเป็นเพียงกรณีของการนำเทคโนโลยีและโซลูชันการทำงานไปปรับใช้ในหน่วยงานหรือองค์กรที่มีความเข้ากัน
ในปัจจุบันเทคโนโลยียังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่องและผู้ให้บริการเริ่มนำเสนอโซลูเฉพาะด้านอุตสาหกรรมมากขึ้น
ในขณะที่การยอมรับการนำเทคโนโลยีเข้ามาปรับใช้ยังไม่แพร่หลายมากนัก
แต่ในอนาคตเราจะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงในการนำเทคโนโลยีอุตสาหกรรม 4.0
มาใช้เป็นจำนวนมากอย่างแน่นอน
บทสรุปของการกระตุ้นการปฏิวัติด้านอุตสาหกรรมเพื่อก้าวสู่
Industry
4.0 ผู้ผลิต และผู้ประกอบการต้องเตรียมรับมือ
และมีแผนรองรับในเรื่องของแรงงานทักษะ
ความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีเพื่อให้สอดคล้องกับการพัฒนาอย่างรวดเร็วของอุตสาหกรรม
ซึ่งผู้ปฏิบัติงานหรือพนักงานในหน่วยเองก็ต้องมองเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงเช่นกัน จึงจะพร้อมต่อการปรับตัว
การเข้าถึงเทคโนโลยีที่เท่าเทียมกันเป็นสิ่งที่จำเป็นในการปรับปรุงทักษะของพนักงาน
และการฝึกอบรมในระดับภูมิภาค ซึ่ง
“ปัจจัยสำคัญที่จะทำให้สามารถรอดจากการปฏิวัติทางอุตสาหกรรมครั้งใหม่นี้ได้ คือ
การเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีและการพัฒนาทักษะ ขีดความสามารถ
เพื่อให้องค์กรสามารถคิดค้น สร้างรูปแบบธุรกิจใหม่จากความคิดเดิมได้เร็วขึ้น”
บริการด้าน AUTOMATION
SOLUTION และการปรับปรุงไลน์การผลิตจากสุมิพล
“สุมิพล คอร์ปอเรชั่น”
บริษัทชั้นนำผู้จัดจำหน่ายเครื่องจักรกลและเครื่องมืออุปกรณ์มาตรฐานคุณภาพสูงแบรนด์ผู้ผลิตชั้นนำระดับโลก
ที่ครอบคลุมงานทุกด้านในการผลิต ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ามากกว่า 10,000 ราย
ในหลากหลายอุตสาหกรรมการผลิตของไทยมายาวนานกว่า 30 ปี
พร้อมให้คำปรึกษาในงานออโตเมชั่น
อุปกรณ์ IoT
หรือ IoT Artchitecture สำหรับการทำงานในโรงงาน
หรือเปลี่ยนโรงงานให้กลายเป็น Smart Factory IoT รวมไปถึงการวินิจฉัยไลน์การผลิตจากหน้างานจริง
เพื่อพัฒนาวางแผนปรับปรุง และแนะนำเครื่องมือที่เหมาะสมกับการผลิต
พร้อมพัฒนาปรับปรุงเพิ่มศักยภาพกระบวนการผลิตเดิมของท่าน
ให้ครอบคลุมการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
ตอบโจทย์การให้บริการลูกค้าได้อย่างครอบคลุมและครบวงจรในยุคอุตสาหกรรม 4.0
ด้วยการร่วมมือกับพันธมิตรผู้เชี่ยวชาญในสาขานี้พร้อมให้บริการอย่างเต็มที่
สนใจเกี่ยวกับข้อมูลของสินค้าหรือบริการเพิ่มเติม
สามารถพูดคุย
วิเคราะห์ปัญหาเบื้องต้นกับผู้เชี่ยวชาญของสุมิพลได้โดยตรง
สามารถติดต่อได้ ที่นี่
หรือ Call
Center 02-7623000
Reference
1. The
Manufacturer,”How can manufacturers accelerate the adoption of Industry 4.0 ?”, April 26, 2022,
From
https://www.themanufacturer.com/articles/how-can-manufacturers-accelerate-the-adoption-of-industry-4-0/
2. Jason
Bergstrom,” Five Predictions for 2022, ‘The Year of the
Smart Factory’”, December 21, 2021 ,
From https://www.industryweek.com/technology-and-iiot/automation/article/21212415/five-predictions-for-2022-the-year-of-the-smart-factory
3. CAT
datacom News & promotion,”รู้จักกับ Digital Twin – เมื่อวัตถุต่าง ๆ มีฝาแฝดอยู่ในโลกดิจิทัล”, November 26, 2019, From
https://www.cattelecom.com/cat/siteContent/3631/275/
ที่มา : Sumipol
Corporation Limited
ที่มา M
Report
วันที่ 11 กรกฎาคม 2565