นักวิทย์ฯ
จากอินโดนีเซีย ค้นพบ คลื่นเสียงช่วยจับไมโครพลาสติก
วิธีที่จะช่วยแยกขยะพลาสติกออกจากแหล่งน้ำหรือมหาสมุทรแทนการใช้ฟิลเตอร์ดักจับขยะแบบเดิม
ไมโครพลาสติกเป็นพลาสติกชิ้นเล็ก
ๆ ที่ยากจะย่อยสลาย
เมื่อทิ้งไว้นานจนสะสมเป็นกองขยะรวมตัวกันอยู่ในมหาสมุทรเป็นชิ้นมหึมา
ถือเป็นภัยคุกคามที่ค่อย ๆ ทวีคูณเพิ่มมากขึ้น ทั้งต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม
นักรณรงค์หลายประเทศ
ยกตัวอย่างเช่น Charles Moore ผู้ก่อตั้ง Algalita
Marine Research and Education ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกําไรในแคลิฟอร์เนีย
กังวลอย่างมากเกี่ยวกับการจัดการขยะพลาสติกในมหาสมุทรที่เพิ่มปริมาณขึ้นปีละ 12
ล้านตัน
ขณะเดียวกัน
Dhany
Arifianto นักวิทยาศาสตร์จากสถาบัน Teknologi Sepulh
Nopember ประเทศอินโดนีเซีย ค้นพบ
วิธีแยกไมโครพลาสติกออกจากแหล่งน้ำ โดยไม่ใช้ตัวกรองหรือฟิลเตอร์ที่มีราคาแพง
หรือการดักจับด้วยน้ำมัน ฯลฯ
ซึ่งคลื่นเสียงที่ Arifianto พบ คาดการณ์ว่าหากพัฒนามากขึ้น และนำไปทดสอบทั้งผลดีและผลเสีย เพื่อจะทำให้มีความสามารถในการช่วยแยกขยะพลาสติกออกจากมหาสมุทรได้จริง ทำให้สามารถจับขยะได้เยอะ ๆ และรวดเร็วขึ้นมากกว่าวิธีที่ผ่านมา
การใช้คลื่นเสียงในการแยกไมโครพลาสติก
ทำได้ด้วยการปล่อยคลื่นเสียงเข้าไปในท่อน้ำ คลื่นเสียงจะทำให้โมเลกุลของน้ำ
และไมโครพลาสติกสั่นสะเทือนในความถี่ที่ต่างกัน ไมโครพลาสติกจะเคลื่อนที่รวมตัวกัน
จากนั้นจึงทำการแยกไมโครพลาสติกออกจากสายน้ำได้
โดยผลการทดสอบในห้องปฏิบัติการ
สามารถแยกไมโครพลาสติกในน้ำจืดได้ถึง 95%
ขณะที่ในน้ำเค็มเขาตั้งเป้าให้มีประสิทธิภาพ 58% ก็เพียงพอ
ระบบนี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในสเกลที่ใหญ่ขึ้นได้
โดย Arifianto
วางแผนจะใช้ช่องแคบให้เป็นประโยชน์ เพื่อทดสอบนวัตกรรมนี้ เช่น
ช่องแคบซุนดาของอินโดนีเซียที่มีความกว้าง 28 กิโลเมตร
สามารถวางท่อคลื่นอัลตราโซนิกเพื่อแยกไมโครพลาสติกได้
“หากพูดถึงคลื่นเสียง
หลายคนคงนึกถึงเสียงในแง่ของสิ่งที่ได้ยิน แต่สำหรับนักวิทยาศาสตร์
คลื่นเสียงเป็นคลื่นแรงดัน เมื่อน้ำที่ปนเปื้อนไหลผ่านท่อ
น้ำที่เป็นของเหลวก็ส่งเสียงออกมา
แต่อนุภาคขนาดเล็กที่เป็นของแข็งจะรู้สึกถึงแรงกดที่แตกต่างออกไป
ทำให้โมเลกุลนั้นถูกขับออกมา” Arifianto กล่าว
ทั้งนี้
นวัตกรรมที่กล่าวไปข้างต้น ยังอยู่กระบวนการขั้นเริ่มต้นที่ต้องพัฒนาต่อไป
และจะต้องคำนึงถึงผลกระทบจากคลื่นเสียงที่ปล่อยออกมาด้วย เช่น
สัตว์ทะเลจะได้รับผลกระทบจากคลื่นเสียงหรือไม่หากนำไปใช้ในธรรมชาติจริง ๆ
หากจะทำความสะอาดมหาสมุทรทั้งหมด
คงทำได้ยาก แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การใช้พลาสติกอย่างชาญฉลาด
หรือตามที่เว็บไซต์ Teknologi Sepulh Nopember เขียนไว้เป็นแบนเนอร์พาดหัวว่า “อย่างแรก
เราเปลี่ยนความสัมพันธ์ของเรากับพลาสติก จากนั้นเราเปลี่ยนโลก”
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ
วันที่ 10 มกราคม 2566