หุ่นยนต์ที่มีรูปร่างเป็นของเหลวอาจจะเป็นสิ่งที่พบเห็นได้บ่อย
ๆ บนภาพยนต์หลาย ๆ เรื่อง
แต่ในวันนี้มหาวิทยาลัยจากฮ่องกงสามารถสร้างหุ่นยนต์สไลม์ให้เกิดขึ้นและใช้งานจริงได้สำเร็จแล้ว
!
ของเหลวประเภทสไลม์คงจะเป็นสิ่งที่ทุก
ๆ ท่านเคยพบเห็นและรู้จักกันดีอยู่แล้ว ด้วยรูปร่างที่มีความหนืดและยืดหยุ่นสูง
ทำให้ไอเดียของสไลม์ถูกทีมนักวิจัยจาก The Chinese
University of Hong Kong (CUHK) นำมาใช้เป็นต้นแบบในการพัฒนาหุ่นยนต์ที่มีคุณสมบัติจากสไลม์ขึ้นมา
ศาสตราจารย์
Li
Zhang และทีมนักวิจัยได้ทำการผสมอนุภาคแม่เหล็ก Neodymium เข้ากับสาร Borax และโพลิไวนิลแอลกอฮอลล์ซึ่งเป็นสารพอลิเมอร์ชนิดหนึ่ง
เพื่อสร้างเป็น Slimebot ที่ควบคุมได้
และสามารถลอดผ่านช่องว่างขนาดเล็ก
เพื่อใช้ในการระบุตำแหน่งและจับวัตถุที่ต้องการได้
ความเป็นไปได้ของการใช้งานภายในร่างกายมนุษย์ !
หุ่น
Slimebot
ได้รับการทดสอบในสถานการณ์ต่าง ๆ มากมาย
ทั้งการใช้มุดลอดช่องว่างขนาดเล็ก หรือการเคลื่อนที่ไปตามเส้นลวดและจับสิ่งของ
ซึ่งทางทีมนักวิจัยยังได้มีการทดสอบเพื่อเตรียมนำ Slimebot มาใช้งานในร่างกายมนุษย์อีกด้วย
การเผลอกลืนวัตถุอันตรายต่าง ๆ เช่น แบตเตอรี่ขนาดเล็กหรือชิ้นส่วนพลาสติกลงไปในท้องโดยไม่ได้ตั้งใจ ถือเป็นหนึ่งในสิ่งที่สร้างความกังวลให้กับหลาย ๆ คนเป็นอย่างมาก หุ่นยนต์ Slimebot นี้จึงได้ถูกทดสอบการใช้งานในการค้นหาและหยิบเอาวัตถุอันตรายเหล่านี้ออกมาจากร่างกายมนุษย์ ด้วยรูปร่างและลักษณะที่มีความยืดหยุ่นสูง ทำให้ Slimebot สามารถทำการเคลื่อนที่ไปมาในกระเพาะหรือลำไส้ของมนุษย์ได้โดยไม่เกิดอันตรายนั่นเองครับ
ศาสตราจารย์
Li
Zhang และ Dr. Mengmeng Sun ถือหุ่นยนต์ Slimebot
ที่มาภาพ : CUHK in Touch
แต่ในปัจจุบันอนุภาคแม่เหล็กจาก Slimebot นั้นถือเป็นพิษต่อร่างกายมนุษย์ ทำให้นักวิจัยจำเป็นต้องทำการทดสอบอย่างละเอียด เพื่อให้แน่ใจว่าอนุภาคเหล่านี้จะไม่ตกค้างในร่างกายมนุษย์ระหว่างที่ Slimebot เคลื่อนที่ไปมา และยังต้องมีการพัฒนากลไกในการเคลื่อนที่ เพื่อให้ Slimebot สามารถทำการเคลื่อนไหวด้วยความเร็วที่สูงขึ้นอีกได้
การพัฒนา Slimebot ที่มีไอเดียมาจากของเหลวที่เราพบเห็นได้ทั่วไปอยู่แล้ว ถือเป็นการประยุกต์แนวคิดที่มีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก ทั้งยังเพิ่มความแปลกใหม่ของการใช้งานหุ่นยนต์ที่แตกต่างจากรูปแบบทั่วไปอีกด้วยครับ ในอนาคตข้างหน้าจะมีไอเดียนวัตกรรมแบบไหนออกมาให้เราได้เห็นกันอีก ก็คงต้องรอดูกันต่อไป
ที่มา : MMThailand
วันที่ 13 กันยายน 2565