สหภาพยุโรปบรรลุข้อตกลงประวัติศาสตร์ ออกกฎหมาย AI ฉบับแรกของโลก
สหภาพยุโรป
(EU)
บรรลุข้อตกลงประวัติศาสตร์ ออกกฎหมายกำกับดูแล AI ที่ครอบคลุมฉบับแรกของโลก ข้อตกลงนี้เรียกว่าพระราชบัญญัติปัญญาประดิษฐ์ (AI
Act) ซึ่งครอบคลุมการกำกับดูแลการใช้งานและบริการต่าง ๆ เช่น ChatGPT
วันที่
8 ธันวาคม 2023 - ยุโรปได้บรรลุข้อตกลงประวัติศาสตร์เกี่ยวกับกฎระเบียบกำกับดูแล AI ที่ครอบคลุมฉบับแรกของโลก ข้อตกลงนี้เรียกว่ากฎหมายปัญญาประดิษฐ์ (AI
Act) ซึ่งครอบคลุมการกำกับดูแลการใช้งานและบริการต่าง ๆ เช่น ChatGPT
ผู้เจรจาจากรัฐสภายุโรปและประเทศสมาชิก
27 ประเทศสรุปข้อตกลงหลังจากแก้ไขปัญหาสำคัญ ๆ ซึ่งรวมถึง Generative AI และการใช้การจดจำใบหน้าของตำรวจ
ข้อตกลงดังกล่าวถือเป็นก้าวสำคัญในการกำกับดูแลเทคโนโลยี AI ทางกฎหมาย
โดยตอบสนองทั้งคำมั่นสัญญาในการเปลี่ยนแปลงและความกังวลเกี่ยวกับอันตรายที่อาจเกิดขึ้น
Thierry
Breton กรรมาธิการยุโรปประกาศข้อตกลงบน Twitter ทำให้สหภาพยุโรปเป็นภูมิภาคแรกที่สร้างกฎที่ชัดเจนสำหรับการใช้ AI การเจรจาดังกล่าวใช้เวลานานหลายชั่วโมง
โดยคาดว่ากฎหมายจะมีผลใช้บังคับภายในปี 2025 โดยประมาณ
รายละเอียดของกฎหมายดังกล่าวยังไม่มีการเปิดเผยเพื่อเหลือพื้นที่สำหรับการหารือเพิ่มเติม
ในตอนแรกสหภาพยุโรปเป็นผู้นำในการสร้างกฎระเบียบด้าน
AI
ด้วยร่างกฎหมายในปี 2021 อย่างไรก็ตาม การเพิ่มขึ้นของ Generative
AI ได้กระตุ้นให้มีการแก้ไขข้อเสนอดังกล่าว Generative AI ซึ่งได้รับการยกตัวอย่างด้วยระบบอย่าง ChatGPT และแชทบอท
Bard ของ Google ได้ก่อให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่องาน
ความเป็นส่วนตัว การคุ้มครองลิขสิทธิ์ และแม้แต่ชีวิตมนุษย์
ในขณะที่รัฐสภายุโรปยังคงต้องลงคะแนนเสียงในกฎหมาย
AI
แต่ข้อตกลงดังกล่าวถือเป็นหลักการ ผู้เล่นระดับโลกอื่น ๆ เช่น
สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร จีน และ G7
กำลังทำงานเกี่ยวกับกฎระเบียบด้าน AI เช่นกัน
แต่กำลังตามหลังยุโรป กฎหมาย AI ฉบับสุดท้ายของสหภาพยุโรปจะต้องได้รับการอนุมัติจากฝ่ายนิติบัญญัติของกลุ่ม
โดยคาดว่าการลงคะแนนเสียงจะเป็นเพียงพิธีการเท่านั้น
เดิมทีร่างกฎหมายได้ออกแบบมาเพื่อจัดการกับฟังก์ชัน
AI
เฉพาะตามระดับความเสี่ยง กฎหมาย AI ได้ขยายให้ครอบคลุมถึงโมเดลพื้นฐาน
ซึ่งเป็นระบบขั้นสูงที่รองรับบริการ AI อเนกประสงค์
การเจรจามีศูนย์กลางอยู่ที่โมเดลพื้นฐาน
โดยมีการประนีประนอมถึงแม้จะมีการต่อต้านจากบางประเทศก็ตาม
ประเด็นที่ถกเถียงกันประการหนึ่งคือการเฝ้าระวังการจดจำใบหน้าที่ขับเคลื่อนด้วย
AI
โดยผู้เจรจาพบว่ามีการประนีประนอมระหว่างการห้ามเต็มรูปแบบและการยกเว้นสำหรับการบังคับใช้กฎหมายในบางกรณี
เช่น การต่อสู้กับอาชญากรรมร้ายแรง
ข้อตกลงดังกล่าวถือเป็นก้าวสำคัญในความพยายามระดับโลกในการควบคุม AI โดยสร้างสมดุลระหว่างนวัตกรรมโดยคำนึงถึงหลักจริยธรรมและความปลอดภัย
ที่มา
:
Mreport
วันที่ 12 ธันวาคม 2566
