ธุรกิจปรับกลยุทธ์รับ ‘เอไอ’ เมกะเทรนด์ดิจิทัลเขย่าโลก
ต้องยอมรับว่าวันนี้
เวลานี้ เทคโนโลยี เอไอ ChatGPT รวมถึง Generative
AI เป็นคลื่นลูกใหม่ที่สร้างแรงสั่นสะเทือนอย่างมากให้กับวงการไอที
ทว่าการนำไปใช้จริงและสร้างมูลค่าเพิ่มเชิงธุรกิจอาจยังต้องการเวลา
รบส
สุวรรณมาศ ผู้นำด้านโซลูชั่น เซลส์ฟอร์ซ ประเทศไทย
ผู้ให้บริการด้านการจัดการลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) ชั้นนำ
เปิดมุมมองว่า
ปัจจุบันธุรกิจไทยกำลังมองหากลยุทธ์ด้านเอไอเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการทำงานและการเสริมสร้างประสบการณ์ลูกค้า
โดยเอไอจะมีส่วนสำคัญต่อทั้งการพัฒนาประสบการณ์ลูกค้า เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน ลดภาระการบริหารจัดการ งานที่ต้องทำซ้ำๆ ซึ่งแม้แต่บริษัทขนาดเล็กก็มีโอกาสเข้าถึงเทคโนโลยีนี้ได้
ประเมินขณะนี้
นับว่าธุรกิจไทยมีความตื่นตัวและเริ่มมีแนวคิดในการพัฒนากลยุทธ์ที่จะนำเทคโนโลยีเอไอ
รวมถึงออโตเมชันมาปรับใช้ แม้ขณะนี้ยังเป็นเพียงระยะเริ่มต้น
แต่มีโอกาสที่จะเติบโตได้อีกมหาศาล
จากที่เคยเป็นเพียงกิมมิคกำลังก้าวไปสู่การปรับใช้จริงอย่างเป็นรูปธรรม
“การที่จะปลดล็อกเป้าหมายดังกล่าวนี้ได้ ธุรกิจต่างๆ
จำเป็นต้องสร้างและรักษาความเชื่อมั่นจากลูกค้าในโลกที่ขับเคลื่อนด้วยเอไอ”
เมื่อมองในเชิงของโอกาส
นับว่าเปิดกว้างให้กับทุกกลุ่มธุรกิจ ส่วนของการผลักดันต้องมาพร้อมกับ “ยูสเคส”
และ “ความพร้อมของข้อมูล”
‘Trusted
AI’ รากฐานสำคัญ
สำหรับ
เซลส์ฟอร์ซวางตำแหน่งการให้บริการเป็นแพลตฟอร์ม “AI CRM” ภายใต้วิสัยทัศน์การพัฒนาอนาคตของซีอาร์เอ็มด้วยเอไอที่เชื่อถือได้หรือ “Trusted
AI”
“รากฐานที่สำคัญที่จะทำให้การใช้งานเอไอเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม
พร้อมสร้างมูลค่าให้กับธุรกิจได้จริง คือ ความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยของข้อมูล”
บทบาทของเซลส์ฟอร์ซ
มุ่งเข้าไปช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำงานให้ธุรกิจและองค์กรทุกขนาดในทุกอุตสาหกรรมให้สามารถเข้าถึงลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพผ่านการใช้นวัตกรรม
“AI
+ Data + CRM”
รบสเผยว่า
ไทยเป็นตลาดที่มีศักยภาพ ติดอันดับท็อป 2
ในภูมิภาค เป็นรองเพียงสิงคโปร์ ช่วง 3
ปีผ่านมาทางบริษัทเพิ่มการลงทุนและน้ำหนักการทำตลาดในประเทศไทยมากขึ้นอย่างชัดเจน
เห็นได้จากการเข้ามาลงทุนตั้งสำนักงานและเพิ่มคนเพื่อเพิ่มโฟกัสการทำตลาดระดับท้องถิ่น
ด้านช่องทางการจัดจำหน่ายทำผ่านพันธมิตรรีเซลเลอร์
บริษัทที่ปรึกษา เอสไอ ซึ่งจะมีทั้งพันธมิตรที่เป็นระดับโกลบอลและโลคอล
เพิ่มแต้มต่อด้วย
‘Generative
AI’
ด้านการวางตลาดผลิตภัณฑ์
หวังเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยผลักดันธุรกิจสู่การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล ด้วยแพลตฟอร์ม Customer
360 พนักงานทุกฝ่ายในองค์กร ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายขาย ฝ่ายบริการ
ฝ่ายการตลาด หรือฝ่ายคอมเมิร์ซ
จะสามารถเข้าถึงข้อมูลของลูกค้าบนแพลตฟอร์มซีอาร์เอ็มที่ครบวงจรและขับเคลื่อนด้วยเอไอ
นอกจากนี้
ไฮไลต์ยังมี “Data Cloud” เอไอระดับองค์กรที่เชื่อถือได้และออกแบบมาเพื่อระบบซีอาร์เอ็ม
ช่วยให้ธุรกิจต่าง ๆ สามารถปลดล็อคและเข้าใจข้อมูลของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น
พร้อมส่งมอบข้อมูลเชิงลึกที่สามารถนำไปใช้ได้แบบเรียลไทม์กับธุรกิจทุกระดับ
รวมไปถึง
“AI
Cloud” ออกแบบเพื่อใช้งานกับระบบซีอาร์เอ็มโดยเฉพาะช่วยเพิ่มความรวดเร็วและให้แนวทางปฏิบัติที่เชื่อถือได้ให้แก่ธุรกิจเพื่อนำไปใช้ยกระดับประสบการณ์การให้บริการแก่ลูกค้าและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานในบริษัทผ่านการใช้งาน
Generative AI ระดับองค์กร
ขณะที่
Sales
GPT นำ Generative AI ที่เชื่อถือได้และอ้างอิงมาจากข้อมูลเรียลไทม์
เพื่อช่วยเหลือฝ่ายขายในการยกระดับการทำงานและช่วยให้สามารถปิดการขายได้อย่างรวดเร็ว
ชาญฉลาด และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ทั้งยังจะมีผลิตภัณฑ์กลุ่ม
“GPT”
อื่นๆ เช่น Einstein Trust Layer ผลิตภัณฑ์ AI
Cloud ที่มาพร้อมฟีเจอร์ Einstein Trust Layer ใหม่ล่าสุด ตัวกำหนดมาตรฐานอุตสาหกรรม Trusted AI ระดับองค์กรในการนำประโยชน์จาก
Generative AI มาใช้
พร้อมคุณสมบัติที่ช่วยในด้านความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูล
โดยหลังจากนี้ทางบริษัทจะทยอยเปิดตัวและทำตลาดผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ
อีกหลากหลายรายการต่อเนื่องไปตลอดทั้งปี
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ
วันที่ 21 กรกฎาคม 2566
