GISTDA จับมือ
กรมราชทัณฑ์ ดึงเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ บริหารจัดการที่ดินรอบเรือนจำ เล็ง
เรือนจำสงขลา นำร่องก่อนใช้จริงในทัณฑสถานที่มีอยู่กว่า 143 แห่งทั่วประเทศ
สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ
(องค์การมหาชน) หรือ GISTDA
ภายใต้กระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ร่วมกับ กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม
ลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการสร้างความร่วมมือ
ด้านการประยุกต์ใช้ข้อมูลด้านเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ
นายปกรณ์ อาภาพันธุ์ ผู้อำนวยการ GISTDA กล่าวว่า การลงนามครั้งนี้เป็นโอกาสดีที่ GISTDA จะมีส่วนร่วมในการพัฒนาและดำเนินกิจกรรมต่างๆ
โดยการนำเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ
เข้ามาประยุกต์ใช้ในงานของกรมราชทัณฑ์ด้านการสำรวจและจัดทำแผนที่ด้านความมั่นคง
และวางแผนจัดการการใช้ที่ดินบริเวณโดยรอบทัณฑสถานที่มีอยู่กว่า 143 แห่งทั่วประเทศ
ถือเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรมระหว่างสองหน่วยงาน
และมุ่งสร้างเสริมขีดความสามารถในการพัฒนาบุคลากรและถ่ายทอดแลกเปลี่ยนองค์ความรู้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผล
โดยการนำเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ
เข้ามาบูรณาการในการบริหารจัดการด้านความมั่นคงและความปลอดภัยของกรมราชทัณฑ์
นอกจากนี้ GISTDA
จะร่วมผลักดันพร้อมสนับสนุนการดำเนินงานภายใต้ภารกิจของกรมราชทัณฑ์
ไม่ว่าจะเป็น ด้านการจัดทำแผนที่แสดงอาณาบริเวณเขตเรือนจำทั่วประเทศ
ที่ผ่านการจัดทำในมาตราส่วนที่เหมาะสม และมีมาตรฐาน
เพื่อให้หน่วยงานภายใต้สังกัดของกรมราชทัณฑ์สามารถนำไปวางแผน
ควบคุม เฝ้าระวังการกระทำผิดกฎหมายในบริเวณเรือนจำทั่วประเทศ ได้ทันการณ์
และมีประสิทธิภาพต่อไป
ด้าน นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์
กล่าวว่า การลงนาม MOU
ในครั้งนี้
มีกรอบความร่วมมือที่สำคัญ เพื่อประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ
เข้ามายกระดับการพัฒนาการใช้ทรัพยากรที่ดินที่กรมราชทัณฑ์ถือครองอยู่เป็นจำนวนมาก
ให้สามารถกำหนดแนวทางการพัฒนาอย่างมีคุณค่า มีทิศทาง และเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น
ทั้งในด้านการพัฒนาพื้นที่
การเฝ้าระวังการบุกรุกที่ดิน และการบริหารจัดการพื้นที่ของกรมราชทัณฑ์
รวมไปถึงประเด็นด้านความมั่นคงของเรือนจำ/ทัณฑสถาน
ปีนี้กรมราชทัณฑ์ได้วางเป้าหมายที่จะดำเนินการจัดทำแผนที่โดยใช้เทคโนโลยีดังกล่าวในเรือนจำของจังหวัดสงขลา
ซึ่งความร่วมมือระหว่างสองหน่วยงานที่กำลังจะเกิดขึ้นนั้น
จะก่อให้เกิดคุณประโยชน์ต่อทั้งสองหน่วยงานและของประเทศอย่างแท้จริง
เนื่องจากเป็นการลดการสูญเสียที่ดินภาครัฐ ซึ่งเป็นทรัพยากรอันทรงคุณค่าของประเทศ
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ
วันที่ เผยแพร่ 27/3/2565